ปลัดมท.ส่งไลน์ถึงผู้ว่าฯ นายอำเภอ ท้องถิ่น แจ้งแนวช่วยชาวบ้านประสบวาตภัย

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.)ได้ส่งข้อความผ่านแอพพริเคชั่นไลน์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.)ทุกจังหวัด เรื่องซักซ้อมแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย โดยตามระเบียบกระทรวงการคลังสามารถช่วยเหลือได้ไม่เกินบ้านหลังละ 33,000 บาท นั้นว่า 1.เมื่อเกิดวาตภัยขึ้นให้อำเภอเร่งรายงานจังหวัด และให้จังหวัดเร่งประกาศเขตภัยพิบัติให้ถูกต้องโดยเร็วเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วในส่วนอปท.สเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีพร้อมสำรวจความเสียหาย 2.หากผลกระทบของวาตภัยเกิดขึ้นในพื้นที่หลายๆแห่งพร้อมกันสนง.ปภ.จังหวัดจะต้องทำหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานให้ทั้งฝ่ายอปท.และฝ่ายปกครองเข้าช่วยเหลือแบะแบ่งพื้นที่รับผิดชอบกันให้ชัดเจน

3.ขอให้อำเภอแต่งตั้งชุดปฎิบัติการประจำตำบล(ชปต.) 4.ทราบว่า ขณะนี้ประชาชนประสบภัยต้องการความช่วยเหลือเป็นวัสดุสิ่งของสำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนเองมากกว่าต้องการถุงยังชีพทั่วไป จึงให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอได้กำกับให้การช่วยเหลือ รวมทั้งประสานงานสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดและองค์กรต่างๆที่จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ทราบด้วย 5. ให้จังหวัดและอำเภอกำหนดช่องทางและวิธีการในการติดต่อสื่อสารเพื่อประสานงานทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ 6.ขอให้จังหวัดอำเภอหาช่องทางประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนรับทราบด้วยว่า ทางราชการไม่ว่าจะเป็นจังหวัดหรืออำเภอรวมทั้งรัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ว

ต่อมา นายกฤษฏาได้ส่งข้อความเพิ่มเติมอีกว่าได้รับรายงานว่า 1.ในพื้นที่ที่มีหน่วยทหารและ หรือกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ในพื้นที่ ให้จังหวัด อำเภอประสานงานกับ ผบ.หน่วยฯ ดังกล่าวเพื่อขอความร่วมมือในการใช้กำลังพลร่วมกับสมาชิก อส.อำเภอ/จังหวัดในการออกไปช่วยเหลือประชาชนซ่อมแซมบ้านเรือนที่พักอาศัยที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยด้วย2. กรณีที่มีองค์กรการกุศลหรือภาคเอกชนหรือประชาชนทั่วไปที่มีจิตอาสาจะช่วยเหลือ กรณีบริจาคเป็นเงินให้บริจาคให้กับผู้เดือดร้อนหรือได้รับความเสียหายโดยตรง ไม่ควรให้ทางราชการรับไว้ก่อนแล้วไปช่วยเหลือ เพราะสุ่มเสี่ยขัดต่อระเบียบกฎหมาย เว้นแต่บริจาคผ่านสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดในกรณีนี้ ให้กำชับเจ้าหน้าที่ออกใบเสร็จรับเงินในนามเหล่ากาชาดโดยเร็ว ซึ่งผู้บริจาคสามารถนำไปเป็นหลักฐานขอลดหย่อนภาษีได้หรือหากบริจาคเป็นสิ่งของก็ให้สำนักงานเหล่ากาชาด กิ่งกาชาดออกหนังสือขอบคุณไว้เป็นหลักฐานแก่ผู้บริจาคด้วย 3. ขณะนี้ บางจังหวัดได้ประสานงานกับภาคเอกชนในนามคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบาย “สานพลังประชารัฐ” ระดับจังหวัดอยู่แล้ว ก็สามารถใช้ช่องทางนี้ประสานงานกับภาคเอกชนที่เหลือประชาชนประสบวาตภัย