เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุฆาตกรรมสุดเหี้ยมโหด ที่ห้องแถวให้เช่า เลขที่ 563 ชุมชนบ้านสุขาวดี หมู่ที่ 8 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยพบศพนายสมทรง คูณขุนทด อายุ 39 ปี หนุ่มอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ถูกมีดปาดที่ลำคอเป็นแผลฉกรรจ์หวิดขาด และถูกแทงที่ลำตัวรวม 5 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือดภายในห้องเช่า และพบร่องรอยการต่อสู่ รอยเท้าเปื้อนเลือดหลายแห่ง
ล่าสุด สายวันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุ ที่ห้องแถวให้เช่า เลขที่ 563 ชุมชนบ้านสุขาวดี หมู่ที่ 8 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พบกับนายสุรพล แยกโคกสูง อายุ 66 ปี เจ้าของห้องเช่า ซึ่งได้นำตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นห้องเช่าชั้นเดียว จำนวน 6 ห้อง จุดเกิดเหตุเป็นห้องที่ 1 ภายในห้องเช่าได้มีการทำความสะอาด ล้างคราบเลือดเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงมีเสื้อผ้าของผู้อยู่อาศัยกองไว้หลังห้อง และท้ายห้องแถวยังมีถ้วยชามที่ยังไม่ได้ล้างวางอยู่เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนายสุรพลเล่าว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ตายและผู้ก่อเหตุได้มาขอเช่าห้องพักอยู่ชั่วคราว ระหว่างที่รับเหมาก่อสร้างขึ้นโครงหลังคาให้กับลูกค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยตนเองได้เปิดให้เช่าห้องที่ 1 ในราคาเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งผู้เช่าได้มาอยู่รวมกัน 3 คน ประกอบไปด้วย นายสมทรง คูณขุนทด อายุ 39 ปี ชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้ตาย, นายทนงศักดิ์ งามเลิศ หรือดำ อายุ 44 ปี ชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผู้ก่อเหตุ และภรรยาผู้ตาย (สงวนชื่อ) ซึ่งปกติผู้ตายและผู้ก่อเหตุจะชอบชวนกันดื่มสุราทุกวันหลังเลิกงาน จนบางครั้งตนต้องเตือนว่าอย่าส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนข้างห้อง แต่ช่วงนี้ห้องเช่าทั้งหมด 6 ห้อง มีคนเช่าเพียง 2 ห้องเท่านั้น จึงทำให้ทั้ง 2 คน ได้พากันมานั่งดื่มสุราที่บริเวณริมรั้วห้องเช่า พร้อมกับเพื่อนผู้ก่อเหตุอีก 1 คน คือนายกมลฤทธิ์ เป็นบุญ อายุ 43 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะนั้นตนไม่ได้อยู่เห็นเหตุการณ์ แต่มีคนโทรศัพท์ไปแจ้งว่าเกิดเหตุฆ่ากันตายในห้องเช่า จึงรีบมาดูถึงกับสลดใจ เพราะไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ทราบจากเพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงว่าสาเหตุเกิดจากนายสมทรง ผู้ตาย ไม่ยอมให้นายทนงศักดิ์ยืมเงินเพียงแค่ 100 บาท จึงเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงและฆ่ากันตายในที่สุด
ด้าน พ.ต.ท.ชีวิน กสิกรรม สารวัตรสืบสวน สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนภรรยาผู้ตายทราบว่า สาเหตุในครั้งนี้เกิดจากการยืมเงิน 100 บาท แล้วไม่ให้เท่านั้น โดยผู้ตายและผู้ก่อเหตุมักจะชอบมานั่งดื่มเหล้ากันเป็นประจำหลังเลิกงาน ซึ่งเมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา นายสมทรง ผู้ตาย พร้อมด้วยนายทนงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ และนายกมลฤทธิ์ เพื่อนผู้ก่อเหตุ ได้นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเช่า ระหว่างนั้นนายทนงศักดิ์ได้เอ่ยปากขอยืมเงินนายสมทรง จำนวน 100 บาท แต่นายสมทรงบอกปฏิเสธเพราะจะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้นายทนงศักดิ์เกิดความไม่พอใจ จึงชกหน้านายสมทรงไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ต่อมานายสมทรงจึงได้วิ่งไปในห้องเช่า แต่นายทนงศักดิ์ได้ถือมีดปลายแหลมวิ่งตามไป และจ้วงแทงนายสมทรงไปที่ลำตัวหลายแผล ก่อนที่จะปาดคอเป็นแผลลึก ภรรยาของนายสมทรงจึงตกใจและวิ่งไปหลบอยู่ในห้องของผู้เช่าอีกห้อง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุและเพื่อนผู้ก่อเหตุจะพากันขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและเลขทะเบียนหลบหนีไป ดังนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งประเด็นไปที่การเมาสุราทะเลาะวิวาทกัน จากเหตุไม่ให้ยืมเงิน 100 บาท เป็นหลัก ส่วนประเด็นชู้สาวหรือรักสามเศร้านั้นไม่ใช่แน่นอน ซึ่งขณะนี้ตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 3 มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บมีดที่เป็นอาวุธในการก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน เตรียมส่งให้ศาลพิจารณาเพื่อออกหมายจับนายทนงศักดิ์ งามเลิศ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าคนตาย และนายกมลฤทธิ์ เป็นบุญ เพื่อนผู้ก่อเหตุ ในวันนี้ (4 ต.ค.) พร้อมทั้งจัดชุดสืบสวนสะกดรอยตาม เพื่อติดตามจับตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สูงเนิน ได้ติดตามจับตัวนายกมลฤทธิ์ เป็นบุญเพื่อนผู้ต้องหาที่หลบหนีไปด้วยกันได้แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเพื่อขยายผลติดตามตัวนายทนงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุฆ่าคนตายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
