คณะปลัดอำเภอยังให้การปฏิเสธไม่ได้เอี่ยวล่าสัตว์ป่า อยู่ระหว่างเค้นสอบ ขณะที่ จนท.พิสูจน์หลักฐานเก็บคราบเขม่าดินปืนและดีเอ็นเอส่งพิสูจน์ ส่วน หน.อช.ไทรโยคยันพฤติการณ์และของกลางบ่งชี้ตั้งใจเข้าไปล่า
ความคืบหน้ากรณีที่นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี รักษาการหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ฉก.พญาเสือ) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เข้าจับกุม นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อม อส.และคณะออฟโรด จำนวน 6 คัน รวม 12 คน ได้พร้อมซากสัตว์ป่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ขณะขบวนออฟโรดกำลังกลับออกมาจากผืนป่าเขาปลาน้อย มาตามเส้นทางทุ่งมะเซอย่อ-เขาปลาน้อย หมู่ที่ 8 ตำบลวังกระแจะ ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.61) นั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ 8 ต.ค.61 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ บริเวณป่าเขาปลาน้อย หมู่ที่ 8 ตำบลวังกระแจะ ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ซึ่งผู้กระทำผิดอ้างว่าเป็นจุดตั้งแคมป์พักแรม เพื่อเก็บหาหลักฐานเพิ่ม และร่องรอยของการกระทำผิดต่างๆ โดยจุดเกิดเหตุห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เป็นระยะทางประมาณ 70-80 กม. ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. เนื่องจากการเดินทางยากลำบาก ต้องใช้รถกระบะโฟร์วีลยกสูงเท่านั้น
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้ทำการจับกุมตัวผู้กระทำผิดทั้ง 12 คน เป็นชาย 10 คน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย และหญิงอีก 2 คน จากนั้นในเวลาประมาณ 02.30 น. ได้นำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลางทั้งอาวุธปืน และรถยนต์ทั้ง 6 คัน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดี โดยแล้วเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ของวันนี้ ซึ่งนายวัชรชัยพร้อมพวกยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ป่า ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่
สำหรับอาวุธปืนจำนวน 3 กระบอกที่ตรวจยึดได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งตรวจพิสูจน์หารอยนิ้วมือ และคราบเขม่าดินปืนที่อาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก รวมทั้งอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของใคร มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากผู้กระทำผิดไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ และไม่ให้ความร่วมมือกับทาง จนท.อุทยานฯเลย ขณะเดียวกันก็ได้ทำการตรวจหาคราบเขม่าดินปืนที่ตัวผู้กระทำผิดและตรวจเก็บดีเอ็นเอด้วย นอกจากนี้ในส่วนของมีดที่ตรวจยึดได้จำนวน 3 เล่ม และเขียง 1 อัน ก็จะนำไปตรวจหาดีเอ็นเอเช่นกัน
นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เปิดเผยว่า วันนี้ได้จัดส่งชุดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มที่ที่จุดเกิดเหตุที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่าไปตั้งแคมป์พักแรมที่บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพราะเชื่อว่าในพื้นที่เกิดเหตุอาจจะพบเครื่องใน เศษหนัง และขนของหมีขอ รวมทั้งค้นหาปลอกกระสุนที่คาดว่าจะใช้ยิงหมีขอเสียชีวิตก่อนที่จะชำแหละออกเป็นชิ้นๆ เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งคาดว่าชุดเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่จะกลับออกมาในช่วงเวลาประมาณ 19.00-20.00 น.ของวันนี้ เนื่องจากการเดินทางเข้าไปค่อนข้างลำบาก ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวกากับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป
หลังจากที่จับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดได้ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย และพวกไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ และไม่ให้ความร่วมมือกับทาง จนท.อุทยานฯเลย ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้กระทำผิดยังคงให้การปฏิเสธ และไม่รับว่าเข้าไปล่าสัตว์ป่า แต่อ้างว่า มีชาวบ้านมาขายซากสัตว์ดังกล่าวให้ แต่จากพฤติการณ์และหลักฐานที่ตรวจยึดได้บ่งชี้ว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวลักลอบเข้าไปทำการล่าสัตว์ป่า เนื่องจากพื้นที่ป่าในแถบนั้นไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะบังเอิญมีคนนำมาขายให้ ซึ่งก็เป็นเป็นสิทธิที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวสามารถที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ฉะนั้นจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งการลงพื้นที่ตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาพยานหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ อินทกรอุดม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ไทรโยค พร้อมพนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบปากคำผู้กระทำผิดทั้ง 12 คนให้แล้วเสร็จเพื่อจะนำตัวฝากขังที่ศาลให้ทันภายในวันนี้ ส่วนกรณีที่ผู้กระทำผิดจะยื่นขอประกันตัว ก็เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาให้ประกันหรือไม่
โดยเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน ที่ห้องมณีเมืองกาญจน์ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จะแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานไทรโยคจับกุมปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ยและ อส.ที่เข้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้รับการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่า
