เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพเข้าไปภายในวัดหนองปรือ หมู่ 4 ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หวังจะลักทรัพย์ และมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพและพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ล่าสุดได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าวเพื่อติดตามความคืบหน้า
พระครูรัตนะ โชติธรรม อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองปรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม ขณะที่พระสงฆ์ในวัดกำลังรอโยมมารับเพื่อไปสวดพระอภิธรรมศพภายในหมู่บ้าน ระหว่างนั้นพระลูกวัดได้มาเคาะประตูกุฏิบอกว่ามีโยมมาหาพระครูฯ เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40-50 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีแดงแขนเสื้อสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นเสมอเข่าสีเข้ม สะพายกระเป๋าสีชมพูไว้ที่แขนด้านขวา เดินเข้ามาหาบอกว่าจะมาขอความช่วยเหลือ
“จึงถามว่าจะให้ช่วยอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่ามีความเดือดร้อนอยากจะขอเงินซัก 3,000 – 4,000 บาท พระครูฯตอบไปว่า พระไม่มีเงินหรอก ระหว่างนั้นหญิงคนดังกล่าวได้มองมาที่โทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ภายในมือของพระครูฯ และตรงเข้ามาแย่งหวังจะชิงเอาโทรศัพท์ไป พระครูฯจึงเดินหนีและพยายามจะกดโทรศัพท์หากรรมการวัดและน้องสาวที่อยู่ภายในหมู่บ้านให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่หญิงคนดังกล่าวได้เดินตามตลอดเพื่อจะยื้อแย่งเอาโทรศัพท์ไปให้ได้ จนพระลูกวัดที่อยู่ในกุฏิได้ยินเสียงดังผิดปกติจึงออกมาดูเหตุการณ์ และช่วยเหลือพระครูฯให้เข้าไปหลบอยู่ในกุฏิของพระลูกวัดก่อน ซึ่งหญิงคนดังกล่าว ก็ไม่ลดละความพยายามยังตามเข้าไปรื้อค้นของภายในกุฏิของพระลูกวัดอีก แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ระหว่างนั้นน้องสาวของพระครูฯ และชาวบ้านได้เดินทางเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงหยุดทำพฤติกรรมไม่ดี” พระครูรัตนะ กล่าว
จากการสอบถามนางสม ยิ่งพิมาย อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 4 บ้านหนองปรือ ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา น้องสาวของพระครูฯ เล่าว่า ได้รับโทรศัพท์จากพระครูฯ โทรบอกให้รีบมาหาที่วัด เนื่องจากมีคนแปลกเดินหน้าเข้ามาเพื่อหวังจะชิงโทรศัพท์มือถือ ตนจึงรีบชวนเพื่อนบ้านและกรรมการวัดซึ่งอยู่ใกล้เคียงให้ไปพร้อมกัน จึงพบผู้หญิงคนดังกล่าวเดินวนไปวนมาภายในกุฏิพระ เมื่อเข้าไปสอบถามผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่ากำลังมีเรื่องเดือนร้อนต้องการเงิน 3,000 – 4,000 บาท ต้องการให้พระครูฯช่วยเหลือ ตนจึงบอกว่าพระครูฯไม่มีเงินให้หรอก ถ้าเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือจริง ตนจะพาไปหากำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแทน อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นเวลามืดค่ำแล้วไม่เหมาะสมที่จะเข้ามาขอความช่วยเหลือตอนนี้ ตนและชาวบ้านคนอื่นจึงช่วยกันไล่ผู้หญิงคนดังกล่าวออกไปจากวัด หลังจากใช้เวลาพูดคุยอยู่นาน จึงยอมเดินออกไปจากวัด หลังจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับวัดได้สังเกตว่า มีรถปิ๊กอัพขับมารับผู้หญิงคนดังกล่าวก่อนจะมุ่งหน้าออกไปทาง อ.ชุมพวง
หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันทราบและแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ทำการตรวจสอบและดูแลความปลอดภัย เพราะกลัวว่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่หวังจะเข้ามาชิงทรัพย์ หากยังไปทำพฤติกรรมดังกล่าวต่อวัดอื่นๆอีกจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ครั้งนี้ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายพระครูฯแต่อย่างใด เนื่องจากพระครูฯ สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่พบเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวให้ระมัดระวัง และทำการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อนำตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
