ประธานหอการค้า จ.ตราด บอกเขตศก.ตราดไปไม่รอด!

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายวุฒิพงศ์ รัตนมนต์ ประธานหอการค้า จ.ตราด กล่าวเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดเกาะกง และเขตพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดตราด ว่า โรงงานที่ผลิตสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงก็ผลิตสินค้าเหมือนสินค้าในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน ทั้งสายไฟฟ้า ที่ผลิตแล้วส่งกลับมายังประเทศไทย เพื่อให้รถยนต์ในประเทศไทยแล้วส่งขายไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ ของโลก แต่กระแสการผลิตรถยนต์ในปัจจุบันที่ใช้น้ำมันกำลังเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้ากันมากขึ้น อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังจะเปลี่ยนแปลงใครที่ลงทุนพัฒนายกระดับไปแล้วก็ต้องระวังตัว

“ ธุรกิจเสื้อผ้าหรือธุรกิจกาเม้นท์ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมเกาะกง ก็ใช้ความได้เปลี่ยนในเรื่องของแรงงานที่มีค่าแรงถูกกว่าประเทศไทยมาลงทุน แต่ปัจจุบันก็เริ่มไม่ถูกเหมือนประเทศอื่นแล้ว เพราะมีการขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ หากแพงไปกลุ่มทุนเหล่านี้ก็จะหันไปที่ประเทศอื่น ๆ ที่มีค่าแรงถูกกว่า เช่น ปากีสถาน หรือเนปาล เพราะธุรกิจกาเมนท์ ย้ายฐานการผลิตได้ง่ายเรื่องนี้นักลงทุนก็ต้องระวัง นิคมอุตสาหกรรมเกาะกงก็ต้องระวัง ประเทศไทยเคยรุ่งเรืองจากธุรกิจนี้มาก่อน ดังนั้นนักธุรกิจที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน พื้นฐานการลงทุนหรือการส่งเสริมการลงทุนของกัมพูชา ก็ใช้กติกาหรือแนวทางที่ประเทศไทยได้ใช้มาแล้วทั้งสิ้น อนาคตจึงไม่แน่นอน สรุปว่าทุกอย่างอยู่ที่ความไม่แน่นอน จึงต้องระมัดระวังในเรื่องของการลงทุนเป็นพิเศษ”นายวุฒิพงศ์ กล่าว

ประธานหอการค้า จ.ตราดา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทยที่ไม่มีเทคโนโลยี่เป็นของตัวเอง หรือมีก็ไม่ซับซ้อน รวมทั้งไม่มีการส่งออกเทคโนโลยี่ การลงทุนจึงเป็นเสมือนการลงทุนที่เปลี่ยนผ่านการใช้แรงงานหรือการตั้งโชว์สินค้า หรือวัตถุในเบื้องต้นอาจจะมีศักยภาพเพราะราคาถูก แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ศักยภาพเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนักลงทุน หรือนักธุรกิจเมื่อจะลงทุนก็ต้องคิดเรื่องการลงทุน พอมีกำไรในเบื้องต้นก็ลงทุนเพิ่มขึ้น ระยะหลังเมื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบก็เจ็บตัว ซึ่งมาจากการปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือเรื่องอื่น ๆ ซึ่งนักธุรกิจบางครั้งต้องรับให้ได้ บางครั้งก็ได้รับผลกระทบไปเหมือนกับเขา เหมือนการที่ร้อนรนไปตามกระแสจีนเพราะอะไรก็ต้องพึ่งจีน เกาะกงก็มีจีนเข้ามาลงทุนมากมายเหมือนเช่นในประเทศกัมพูชา ซึ่งในอนาคตจะเกิดปัญหาขึ้น ประเทศไทยก็อารมณ์เดียวกันกับประเทศจีน เพราะจีนกำลังเข้ามาครอบครองธุรกิจทุกอย่างเหมือนเช่นกัมพูชา ถามว่าอนาคต จะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป

“ ประเทศจีนกำลังแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเรื่องกำแพงภาษีและมีอำนาจต่อรองสูง เพราะจีนได้เงินจากการค้าขายจากทั่วโลก และนำเงินเข้าประเทศจนร่ำรวยในระยะเวลาไม่กี่ปี แต่หลังจากนี้เราต้องตั้งรับกันแล้วเพราะอินเดียประกาศออกมาแล้วว่า จะเป็นคนคานอำนาจกับจีน นักลงทุนไทยจึงต้องระวังตัว ”  นายวุฒิพงศ์ กล่าว

Advertisement

ประธานหอการค้าตราด  กล่าวว่า เมื่อมองจากปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงกล้าพูดได้ว่า เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จะไม่เวิร์คไม่สามารถที่จะก้าวไปได้ จะต้องจบหรือยกเลิกไปในที่สุด ซึ่งขอพูดตรง ๆ ในมุมมองของประธานหอการค้า และในฐานะส่วนตัวต้องจบแล้วหันมายกระดับพัฒนาการท่องเที่ยวขึ้นมาเป็นธุรกิจหลักของจังหวัดตราด ส่วนการท่องเที่ยวจะสามารถพลิกฟื้นได้หรือไม่นั้น ก็ต้องคิดว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร แต่จะบอกไปยังท่านอุตสาหกรรมจังหวัดตราดว่า การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดตราด ให้เลิกคิดได้แล้วไม่ต้องเสียเวลาเพราะจะเสียเวลาเปล่า ส่วนอุตสาหกรรมที่จะเกี่ยวข้องกับคนตราด นักธุรกิจจังหวัดตราดหรือนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดเกาะกง ที่จะเป็นอนาคตของทั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจ

“จ.ตราดก็คืออุตสาหกรรมด้านการเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับผืนดินจะก้าวไปได้ เพราะการกิน การบริโภคยังคงอยู่ และประเทศจีนมีประชากรมหาศาล แม้มีพื้นที่มากมายก็ไม่สามารถสร้างอาหารให้พอกินได้ ในอนาคตหากประเทศกัมพูชาและประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดตราดมีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชาหันมาพัฒนาและสร้างความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปออกมาก็จะน่าจะสามารถยกระดับและพัฒนาจนเกิดความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกได้” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

Advertisement

นายวุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ มันเร็วไปที่จะทำนายอนาคตเพราะวันนี้ผู้บริโภคชอบอย่างนี้ พออีกวัน อีกเดือน ก็เป็นอย่างนั้น หรือปีหน้าก็อาจเป็นอีกแบบ จนต้องมีการเปลี่ยนไลน์การผลิตบ่อย ๆ พวกเราอาจจะตั้งรับไม่ทัน ซึ่งการลงทุนด้านอุตสาหกรรมในแต่ละครั้งต้องใช้เงินมหาศาล จะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค หรือติดตลาดหรือไม่ ยังไม่รู้ต้องลองดูกันก่อนและอาจต้องเจ็บตัวได้ จึงฝากไว้ให้ระมัดระวังต้องมองให้ดีซึ่งตนเองมองว่า อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่คิดจะทำให้คนหันมามองตัวเองที่การเกษตรที่จะเป็นจุดแข็ง และทุกคนทำกันได้ ทำกันได้ดี ส่วนในอนาคตยังไม่แน่ถ้าทำเกษตรแล้วไม่ปรับตัวก็จะล้าหลัง และไปแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ไม่ได้ นี่คือสิ่งที่หอการค้าจ.ตราดอยากจะสะท้อนไว้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image