ป่าไม้เข้าตรวจยึดบาร์ 2 แห่งริมหินตาหินยาย รุกล้ำที่สาธารณะริมชายหาดเกาะสมุย (คลิป)

ป่าไม้ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเทศบาลนครเกาะสมุย เข้าตรวจสอบบริเวณหินตาหินยายแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเกาะสมุย พบบาร์ 2 แห่งกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ที่ก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะริมชายหาด จึงเข้าทำการตรวจยึด พร้อมแจ้งความดำเนินคดี และสืบหาตัวผู้กระทำความผิดหลังไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายธรรมนูญ สุขเจริญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าชุดจัดระเบียบสังคมพื้นที่เกาะสมุย ร่วมกับนายสมคิด เจียวก๊ก หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าสฎ 16 (เกาะสมุย) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาะสมุย และเทศกิจเทศบาลนครเกาะสมุย เข้าตรวจบริเวณแหล่งท่องเที่ยวหินตาหินยาย หมู่ 3 ต.มะเร็ต หลังได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและเปิดเป็นบาร์ 2 แห่งรุกล้ำที่สาธารณะริมชายหาด จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ

จุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบาร์ชื่อ “ร็อคบาร์” เปิดขายอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ห่างจากหินตาหินยายประมาณ 100 เมตร พบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง ลักษณะเป็นระเบียงไม้ และทำเป็นที่นั่งพักผ่อนสำหรับลูกค้าอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ แต่จากการสอบถามไม่พบบุคคลรับเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแล

Advertisement

และจุดที่สอง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบาร์ชื่อ “ไก่บาร์” เปิดขายอาหารและเครื่องดื่ม อยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 50 เมตร พบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง ทำเป็นบาร์และมีระเบียงไม้ล้อมรอบ มีที่นั่งพักผ่อนสำหรับลูกค้าอยู่ริมหาด แต่จากการสอบถามไม่พบบุคคลรับเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแล

จากนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตรวจสอบหลักหมุดที่ดิน และจับพิกัดจีพีเอสเพื่อหาแนวเขตที่ดิน เบื้องต้นพบว่าบาร์ทั้ง 2 แห่งที่เข้าตรวจสอบมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ ผู้ที่ครอบครองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี แต่จากการตรวจสอบไม่มีผู้รับเป็นเจ้าของ

Advertisement

นายสมคิด เจียวก๊ก หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าสฎ 16 กล่าวว่า จากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนในแหล่งท่องเที่ยวหินตาหินยาย จึงได้เดินทางมาตรวจสอบที่ร้าน “ไก่บาร์” และ “ร็อคบาร์” จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบหลักโฉนด 2 หลัก แต่สิ่งปลูกสร้างของทั้ง 2 แห่ง ปลูกสร้างออกมานอกเหนือหลักโฉนดรุกล้ำริมชายหาด เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ทางเจ้าหน้าที่จะทำหนังสือตรวจยึดและแจ้งความดำเนินคดีเพื่อให้พนักงานสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป เพราะว่าตอนนี้ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของ

นอกจากนี้ ประชาชนหรือผู้ประกอบการรายได้ถ้ารู้ตัวว่ากระทำความผิดรุกล้ำที่สาธารณะให้ทำการรื้อถอนออก เพราะทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีการร้องเรียนเข้ามา หากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ที่กระทำผิด อัตราโทษถ้าเนื้อที่ดินไม่เกิน 25 ไร่ ก็จะมีโทษจำคุก 5 ปี และปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image