ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2559 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อหาแนวทางการสนับสนุนและพัฒนาโครงการหลวงให้เจริญก้าวหน้า ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาว สร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชาวเขา โดยมี ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมคณะกรรมการ กปส. และผู้เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้จากการรายงานผลการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่า ในระหว่างปีงบประมาณ 2555-2559 มีหน่วยงานสนับสนุนและบูรณาการร่วมกับโครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 23 หน่วย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 2,817 ล้านบาท หรือ 54.95% ตามแผนแม่บท โดยผลการดำเนินงานโครงการหลวงในปี 2558 มีการขึ้นทะเบียนพันธุ์ไม้ผลจากกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ เสาวรส พันธุ์เหลืองหวาน และสตรอเบอรี่ พันธุ์พระราชทาน 88 มีเกษตรกร 14,883 ครัวเรือน ปลูกพืชเขตหนาวและกึ่งหนาว 206 ชนิด ในพื้นที่ปลูก 28,567 ไร่ ผ่านการรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย ทั้งระบบการเกษตรที่ดี (GAP) และเกษตรอินทรีย์ มีผลผลิตทางการเกษตร สินค้าแปรรูป และอื่นๆ ภายใต้ตราโครงการหลวง ในปีงบประมาณ 2558 มีมูลค่า 1,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.44%
โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิจารณากรอบยุทธศาสตร์ แผนงาน และงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมบูรณาการและสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนแม่บทศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และแผนแม่บทโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตให้ชุมชนบนพื้นที่สูง ให้มีความมั่นคงทางด้านอาหารและสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนโครงการหลวง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนบนพื้นที่สูงให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกพืชผักเขตหนาว และพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาป่าต้นน้ำลำธารอย่างยั่งยืนต่อไป