ชาวอุตรดิตถ์แห่แจ้งความเอาผิดธนาคาร หลังพนักงานแอบถอนเงินกว่า1ล.

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นางอัญชลี วงษ์จันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/6 หมู่ 6 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เข้าพบ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อขอความช่วยเหลือและขอให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ทำการสอบสวนกรณีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนบรมอาสน์ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ หายไปจากบัญชีเงินฝากประจำ จำนวน 577,415.71 บาท ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้มีนายเป็นเฮง แซ่จิว อายุ 90 ปี บ้านเลขที่ 73/6 หมู่ 2 ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ ก็เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า เงินฝากประจำธนาคารแห่งเดียวกันนี้หายไปจากบัญชีมากกว่า 500,000 บาท และนายประสงค์ชัย มากบำรุง อายุ 67 ปี อาชีพขายมะพร้าวอยู่ในตลาดสดเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ก็มาแจ้งความร้องทุกข์อีกรายว่าเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำธนาคารแห่งนี้ก็หายไปจากบัญชีราว 700,000 บาท

พ.ต.อ.ดิษยเดชกล่าวว่า ทั้ง 3 ราย ล้วนแต่เป็นบุคคลที่หาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรง หวังเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่ชรา ด้วยการฝากเงินกับธนาคารเมืองหลวง บัญชีเงินฝากประจำ แต่พอถึงเวลาจะไปถอนเงินมาใช้กลับพบว่าเงินหายไปจากบัญชีไม่หมดแต่ก็เกือบหมดจากบัญชี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ หลังลงบันทึกประจำวันแล้วก็ทำการสอบสวนทุกราย ขณะเดียวกันก็สอบถามไปยังผู้จัดการธนาคารแห่งนี้ก็พบว่าพนักงานธนาคารรายหนึ่งที่ทำหน้าที่รับฝากถอนเงินแอบถอนเงินจากทั้ง 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากประจำ ที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ถอนออกไปใช้จนกว่าจะครบกำหนดถอน การถอนเงินเจ้าของบัญชีไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน

“ผู้จัดการธนาคารบอกว่าเรื่องนี้ธนาคารก็ไม่นิ่งเฉย แต่รอว่าธนาคารสำนักงานใหญ่จะเอาอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเงินที่หายไปนั้นเป็นเงินของธนาคารแล้ว ไม่ใช่เงินของเจ้าของบัญชี การชดใช้ให้กับเจ้าของบัญชีธนาคารจะต้องรับผิดชอบคืนให้ ส่วนการดำเนินการทางแพ่งและอาญาคงเป็นเรื่องของธนาคารเองว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพนักงานรายที่แอบเอาเงินของธนาคารไป” พ.ต.อ.ดิษยเดชกล่าว

Advertisement

รายละเอียด

ภูมิภาค


QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image