เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายนพดล ณ เชียงใหม่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในฐานะนายกสมาคม อบต.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกรณีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) สั่งห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำรถฉุกเฉินรับผู้ป่วยกลับบ้าน ว่าไม่เห็นด้วย เพราะกระทบ
สิทธิประชาชน ที่ขอใช้บริการรถฉุกเฉินจากท้องถิ่น เพราะประชาชนเป็นผู้เสียภาษี ไม่ใช่องค์กรตรวจสอบหรือหน่วยงานรัฐ ซึ่งการใช้รถฉุกเฉินรับส่งผู้ป่วยถือเป็นการบริการสาธารณะ ไม่ควรมองว่าผู้บริหารท้องถิ่นหาเสียง หรือมีผลประโยชน์แอบแฝงตามที่มีผู้กล่าวอ้าง
“การนำรถฉุกเฉินรับส่งผู้ป่วยควรพิจารณาเป็นกรณีไป หากเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพื่อไปโรงพยาบาล พบแพทย์เพื่อรักษา ควรเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีทักษะ ความชำนาญ และมีอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อม ไม่ใช่เป็นญาติหรือใครก็ได้ เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยได้ ซึ่งพื้นที่เชียงใหม่มี อบต.กว่า 100 แห่ง บางแห่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลอำเภอ 40-50 กิโลเมตร ดังนั้นอยากให้กระจายอำนาจ หรือถ่ายโอนภารกิจรับส่งผู้ป่วย พร้อมงบประมาณมาให้ท้องถิ่นดูแลแทน เนื่องจากรู้ปัญหาและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด” นายนพดลกล่าว
ด้านนายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด กล่าวว่า อยากให้ตีความว่า “ฉุกเฉิน” คืออะไร ถ้าไม่ใช่อุบัติเหตุรับส่งไม่ได้ใช่หรือไม่ ถ้าเป็นผู้ป่วยติดเตียง หรือมีโรคประจำตัวจะทำอย่างไร อย่าอ้างระเบียบว่าไม่ใช่หน้าที่ อปท. เพราะขัดแย้งนโยบายรัฐบาลที่ให้ท้องถิ่นบริการ และอำนวยความ
สะดวกแก่ประชาชนเป็นหลัก ถ้าให้ผู้ป่วยหรือชาวบ้านที่ยากไร้เสียค่าใช้จ่ายเหมารถไป-กลับโรงพยาบาล คันละ 1,000-2,000 บาท เป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชนมากกว่า ดังนั้น สถ.ควรพิจารณาทบทวนระเบียบดังกล่าว โดยยึดการบริการสาธารณะเป็นหลัก
ส่วนนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องยึดระเบียบคำสั่ง สถ. แต่บางกรณีควรใช้หลักยืดหยุ่น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการรัฐหรือท้องถิ่นอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โดยคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและความจำเป็นแต่ละราย โดยให้ท้องถิ่นเป็นผู้ใช้ดุลพินิจเอง หากมีการกระจายอำนาจ และงบประมาณให้ท้องถิ่นบริหารจัดการ เชื่อว่าดูแลประชาชนได้ดีกว่าเดิม เพราะภาษีกว่าร้อยละ 90 อยู่ที่ส่วนกลาง ท้องถิ่นได้รับเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น
