เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชุมคณะทำงานปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภูทับเบิก ทั้งป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พัฒนาสังคมฯจังหวัด และโยธาธิการจังหวัด ฯลฯ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เพื่อเตรียมเข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเจ้าของเป็นนายทุนนอกพื้นที่อีก 3 ราย หลังจากคณะทำงานได้เข้าปิดประกาศให้เจ้าของรีสอร์ตทำการรื้อถอนเองภายใน 30 วัน และผ่อนผันให้อีก 7 วันแล้ว แต่ปรากฏว่าหลังครบกำหนดเวลาแล้ว เจ้าของรีสอร์ตภูข้าวฟ่าง, รีสอร์ตชิลล์แลนด์ และรีสอร์ตภูการ์เด้นท์ มีการรื้อถอนเพียงเล็กน้อยและบางแห่งมีท่าทีประวิงเวลาอีกด้วย
ในขณะที่รีสอร์ตภูข้าวฟ่างมีการทำหนังสือขอผ่อนผันอ้างว่าอยู่ระหว่างต่อสู้คดีขอให้ชะลอการรื้อถอนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อน
ทั้งนี้ นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก เป็นหัวหน้าฯ มีความเห็นไม่ควรขยายเวลาและควรรื้อถอนให้เสร็จตามกำหนดเวลา กระทั่งที่ประชุมมีมติยืนกรานให้รื้อถอนตามแนวปฏิบัติที่ผ่านมา พร้อมให้แจ้งรีสอร์ตเหล่านี้เร่งรื้อถอนเองให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ หากฝ่าฝืนทางคณะเจ้าหน้าที่จะเข้ารื้อถอนในวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2561 โดยใช้มาตรการตัดกระแสไฟฟ้าและรื้อหลังคา
นอกจากนี้ นายชิต อินทรนก ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานป่าไม้เพชรบูรณ์ แจ้งเพิ่มเติมว่า ยังเตรียมเข้าปิดประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 ให้รีสอร์ตบ้านกลางหมอก เพื่อทำการรื้อถอนเองในห้วงระยะเวลา 30 วัน หลังจากอัยการจังหวัดหล่มสักมีคำสั่งฟ้องดำเนินคดีแล้ว ทั้งนี้ นายสืบศักดิ์ได้เน้นกำชับให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายให้รอบคอบ เพื่อป้องกันและปิดช่องมิให้ทางรีสอร์ตฟ้องร้องต่อคณะเจ้าหน้าที่
อนึ่ง สำหรับการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก ทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินภูทับเบิก ได้ดำเนินการภายใต้คำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 โดยเป้าหมายรีสอร์ตที่ต้องรื้อถอนมีทั้งหมด 103 ราย แบ่งเป็น คนนอกบุกรุกพื้นที่ 53 ราย และเป็นชาวม้งในพื้นที่ 50 ราย โดยในส่วนของรีสอร์ตคนนอกพื้นที่ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปแล้วจำนวน 44 ราย จำนวน 296 หลัง 298 ห้อง ร้านค้า-ร้านอาหาร 18 หลัง 19 ห้อง
โดยในการการรื้อถอนใช้แนวปฏิบัติหลังพนักงานอัยการสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดหล่มสัก คณะทำงานฝ่ายรื้อถอนจะปิดประกาศให้รื้อถอนเองภายใน 30 วัน และแจ้งเตือนอีก 7 วัน หากฝ่าฝืนทางเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อถอนแทน โดยคิดค่าใช้จ่ายทางรีสอร์ตในภายหลัง ในการรื้อถอนที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปจนเหลือรีสอร์ตเพียง 4 รายสุดท้าย โดยใน 3 รายปิดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนเองและครบกำหนดแล้ว ส่วนอีกรายรีสอร์ตบ้านกลางหมอก ซึ่งเป็นรายสุดท้าย ล่าสุดพนักงานอัยการเพิ่งมีคำสั่งฟ้อง ทางคณะเจ้าหน้าที่จะปิดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนเองตามแนวปฏิบัติต่อไป
แฟ้มภาพเข้ารื้อถอน
