ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดบุรีรัมย์ รายงานว่า วันที่ 26 ตุลาคม 2561 นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้พา น.ส. บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กิจไธสง พนักงานสอบสวน สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าได้ถูกนายเจษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา ช่วงเดือนตุลาคม 2559 หรือเมื่อ 2 ปีก่อน
โดยในวันเกิดเหตุนั้นผู้เป็นพ่อขับรถกระบะพาบุตรสาวกลับจากทำธุระในตัวอำเภอสตึก ระหว่างทางจะกลับบ้านได้ขับรถพาเข้าไปในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.สตึก แล้วบังคับให้ลงจากรถก่อนจะดึงตัวเข้าไปในห้องพัก แล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ หลังเกิดเหตุผู้เป็นพ่อยังได้ขู่ลูกสาวด้วยว่าห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกให้คนอื่นรู้โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวลูกสาวจึงไม่กล้าปริปากบอกใคร
นางเอ (นามสมมุติ) ยังเปิดเผยต่อว่า กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเจษฎายังได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวอีก ซึ่ง น.ส.บีทนไม่ไหว จึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาบอกกับตนและยาย ก่อนพามาแจ้งความดังกล่าว เพราะเกรงลูกจะถูกระทำซ้ำอีก และลูกสาวก็มีอาการซึมเศร้าหวาดกลัว
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เป็นแม่และบุตรสาวไว้แล้ว พร้อมทั้งได้ส่งตัวผู้เสียหายให้แพทย์ตรวจร่องรอยการล่วงละเมิด และพาไปชี้จุดที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐาน หลังจากนี้ก็จะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหายที่สำนักงานอัยการ พร้อมจะได้ออกหมายเรียกผู้เป็นพ่อที่ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหา คือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเป็นการกระทำแก่ทายาทหรือผู้สืบสันดาน
