ตำรวจประจวบฯยันจอดรถบนไบค์เลน 9.6 ล้านได้ไร้กฎหมายเอาผิด ชี้ชัดแค่ ”ทาสี ตีเส้น” หลังสร้างเสร็จไม่มีประกาศรองรับ
ไบค์เลน-วันที่ 30 ตุลาคม พ.ต.อ.ชยินธร สุคนธร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอีกครั้งที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาหลังจากมีประชาชนร้องเรียนกรณีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดใช้งบประมาณ 9.6 ล้านบาท ก่อสร้างโครงการพัฒนาเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยว และเส้นทางจักรยาน หรือไบค์เลน บริเวณถนนเลียบชายทะเลในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่รั้วด้านหน้ากองบิน 5 ถึงสะพานคลองบางนางรม ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร โดยปรับปรุงผิวจราจรและทำเส้นทางจักรยานตลอดแนว แต่มีปัญหาจากการใช้ประโยชน์ ต่อมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทักท้วงว่าการใช้งบโครงการไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่มีความคุ้มค่า เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้ไบค์เลนเป็นสถานที่จอดรถยนต์ตามปกติ ล่าสุดพบว่าการทำไบค์เลนเป็นเพียงการทาสีตีเส้นในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่ไม่มีประกาศใดรองรับเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ขี่จักรยาน
“มีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำเลนจักรยานเพียงฝั่งเดียวบนถนนจะมีปัญหาเป็นอย่างมาก หากมีอุบัติเหตุจากรถจักรยานที่ใช้ไบค์เลนถูกรถยนต์เฉี่ยวชนกรณีมีการวิ่งสวนทางในเลนเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องพิจารณาว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ขณะที่ปัจจุบันการทำไบค์เลนดังกล่าว หน่วยงานรัฐยังไม่มีมาตรการคุ้มครองผู้ใช้ เนื่องจากเทศบาลเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการพิจารณาร่วมกันเพื่อกำหนดพื้นที่หรือกำหนดแนวทางการใช้งานบนผิวการจราจรถนนเลียบชายทะเลตลอดแนว ดังนั้นรถยนต์ที่จอดบนไบค์เลนจึงไม่มีความผิด ขณะที่รถจักรยานที่ใช้เส้นทางต้องระมัดระวังความปลอดภัย” พ.ต.อ.ชยินธรกล่าว
นายสุทธิพร เที่ยงธรรม ปลัดเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เทศบาลยังไม่รับมอบโครงการไบค์เลนจากสำนักงานโยธาธิการจังหวัด หลังก่อสร้างเสร็จนาน 6 เดือน เพิ่งส่งมอบ โดยพบว่าโครงการบางส่วนได้รับความเสียหาย และขอยืนยันว่าหากเทศบาลเป็นผู้ใช้งบประมาณทำโครงการนี้ ก่อนทำจะต้องสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสม ป้องกันปัญหาความขัดแย้ง เพราะมีการปิดถนนเพื่อเปิดตลาดถนนคนเดินในวันศุกร์และเสาร์ ขณะเดียวกันยังมีอีก 13 โครงการที่สำนักงานโยธามีหนังสือส่งมอบให้ดูแล แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แจ้งให้เทศบาลรับทราบเพื่อขอใช้พื้นที่ จึงเป็นอำนาจของสภาท้องถิ่นว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยประเมินจากความคุ้มค่า เนื่องจากบางโครงการที่ส่งมอบมีสภาพชำรุดเสียหาย
นายอรัญ จันทร์ต้น รักษาการหัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการชี้แจงเหตุผลกับ สตง.รวมทั้งชี้แจงถึงหน่วยงานส่วนกลาง ยอมรับว่าตนเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงขอเวลาศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะส่งมอบ 13 โครงการที่ดำเนินการแล้วให้เทศบาลดูแล หากเทศบาลไม่รับมอบก็จะมีปัญหาในการใช้ประโยชน์พอสมควร และบางประเด็นจะต้องขอให้ผู้บริหารระดับจังหวัดเป็นผู้ชี้แจง แต่โดยหลักการของการจัดสรรงบประมาณหรือการทำโครงการในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาล ควรมาจากการเสนอแผนและความต้องการของท้องถิ่นเป็นหลักเพื่อให้ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์
