รวบ ‘โจรอ้วน-ผอม’ สุดแสบ ตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญกว่า 10 ครั้ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รองผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร , พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม และตำรวจชุดสืบสวนฯ ได้แถลงผลการจับกุมนายไพโรจน์ สายทอง อายุ 29 ปี ชาว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร กับ นายสมเกียรติ มณีสุริยันต์ อายุ 34 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยทั้งสองคนเป็นคู่เขยกัน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นโซนิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน มลพ 630 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน กยพ 926 สมุทรสาคร คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 อัน หมวกกันน็อก และเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน

พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของสองโจรอ้วนผอมที่เป็นคู่เขยกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาครรับแจ้งว่า เมื่อช่วงคืนของวันที่ 23ตุลาคม 2561 ได้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุงัดตู้กดน้ำดื่มหยอดเหรียญ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำ เลียบทางรถไฟท่าฉลอม เลขที่ 54/26 ม.7 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้เงินไปจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ก่อเหตุ 2 คน มีลักษณะอ้วนหนึ่งคนและผอมหนึ่งคน จึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุและไปจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 27/49 ม.4 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทั้งสองคนเป็นคู่เขยกัน และร่วมกันก่อเหตุจริง โดยทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียง โดยล่าสุดได้เข้าไปก่อเหตุในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว ส่วนวิธีการก็จะใช้คีมตัดเหล็กตัดแม่กุญแจ แล้วก็งัดตู้เติมเงินทั้งจากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้เติมเงินโทรศัพท์หยอดเหรียญ และตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ได้เงินต่ำสุด 20 บาท สูงสุดราวๆ 1,000 บาท จากนั้นก็เอาเงินที่ได้ไปใช้จ่ายกัน ซึ่งตนเพิ่งออกมาจากเรือนจำในคดียาเสพติด และก็ไม่มีงานทำจึงมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image