เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกาะพยามว่ามีการบุกแผ้วถางป่าต้นน้ำและป่าเลนในลักษณะเหมือนจะทำถนน จากการตรวจสอบพื้นที่อยู่ในเขตหมู่ที่ 1 ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง พบมีการแผ้วถางป่าเปิดแนวยาวลักษณะเหมือนทำถนนกว้างราว 10 เมตร และถูกแผ้วถางเป็นทางยาวไปราว 600 เมตร โดยผ่านพื้นที่ที่เป็นป่าและมีต้นไม้ใหญ่ อีกทั้งผ่านพื้นที่ที่เป็นป่าโกงกางด้วยจากการตรวจสอบพบว่ามีการเข้าตรวจสอบพื้นที่ของเจ้าหน้าที่แล้ว จึงได้ประสานขอข้อมูลกับทางสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 (เมืองระนอง)
นายขยาย ทองหนูนุ้ย หัวหน้าสถานีฯ เปิดเผยว่าเมื่อเย็นของวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ทางทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี (ฉก.ร.25) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่า เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังประกอบด้วยทหารจากหน่วย ฉก.ร.25 สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 อส.จ.ระนอง ลงพื้นที่ในเช้าของวันที่ 25 โดยในที่เกิดพบว่ามีการแผ้วถางต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่เป็นทางยาว และผ่านพื้นที่ป่าชายเลนลงไปราว 200 เมตร ซึ่งในพื้นที่พบรถแบ๊กโฮและคนขับรถกำลังทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวมาสอบปากคำ และทำการวัดพิกัดของพื้นที่พบว่าเป็นพื้นที่ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดระนอง (สปก.จ.ระนอง) จึงได้ประสานข้อมูลไปยัง สปก.จ.ระนอง และได้รับการยืนยันว่าอยู่ในเขตของ สปก.จ.ระนองจริง และกำลังดำเนินการตามโครงการของภาครัฐ
นายขยาย กล่าวต่อว่า การทำลายหรือตัดโค่นต้นไม้หวงห้ามถึงแม้จะอยู่ในเขต สปก. ก็ต้องขออนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อน ซึ่งกรณีนี้ได้มีการไถทำลายป่าโกงกางซึ่งเป็นไม้หวงห้ามซึ่งอยู่ในเขตป่าชายเลน ซึ่งอาจจะเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการไม่ระมัดระวังในการทำงานของคนงานจนออกแนวเขต ทางสถานีจึงต้องจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยการส่งฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนขับรถ ฐานตัดโค่นทำลายไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนต้นไม้ใหญ่นอกเหนือจากป่าชายเลน ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานป่าไม้ที่ต้องดำเนินการต่อไป ในส่วนของการดำเนินการก่อสร้างหรือมีโครงการสร้างอะไรในพื้นที่นั้นตนเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งน่าจะเป็นโครงการของทางหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่คือ สปก.จ.ระนอง
ชาวบ้านผู้ร้องเรียนคนหนึ่งบอกว่า พื้นที่บนเกาะพยามเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว การดำเนินการโครงการต่าง ๆ ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งหน่วยงานของรัฐนั้นทราบดี โดยโครงการนี้จากการสอบถามคนงานในพื้นที่ทราบว่ากำลังทำถนนให้กับทางราชการ และได้มีการตัดผ่านพื้นที่ที่เป็นป่าชุ่มน้ำ มีการตัดโค่นต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่ รวมถึงได้มีการตัดผ่านป่าชายเลนด้วย จึงเป็นที่ผิดสังเกตเพราะในพื้นที่ที่ใกล้กันนั้นมีถนนอีกเส้นหนึ่งอยู่แล้ว อีกทั้งพื้นที่ที่กำลังดำเนินการไปนั้นไม่ได้มีบ้านเรือนผู้คน มีเพียงพื้นที่บางแปลงที่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครอง