เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ สมาพันธ์สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง และตัวแทนเกษตรกรปาล์มน้ำมันจากจังหวัดทั่วประเทศ ประชุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งมติที่ประชุมมี 8 ข้อเรียกร้อง อาทิ ให้มีการกำหนดราคาขั้นต่ำในการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานไม่ต่ำกว่าราคากิโลกรัมละ 4.50 บาท ให้กำกับการนำเข้าน้ำมันปาล์มที่ถูกกฎหมาย และให้มีการผลิต การใช้ไบโอดีเซล B10, B20 ให้เป็นพลังงานทางเลือกของทุกจังหวัด และเพิ่มจุดจำหน่ายตามสถานีบริการทั่วไปให้ทั่วถึง เป็นต้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่คำตอบจากรัฐบาล
นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ได้มีการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ปรากฏว่า 8 ข้อที่เรียกร้องไม่มีในการประชุม เช่น ราคาปาล์มที่เรียกร้องไป กก.ละ 4.50 บาท รัฐบาลก็ไม่มีตอบ จึงประมาณได้ว่าอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.50 บาท แล้วตัวที่จะเป็นปัจจัยบวกทางตลาดก็มีบ้าง เช่น จะปรับจากน้ำมันไบโอดีเซลจาก 6.4 บาท เป็น 7 บาท ทำให้มีการเพิ่มความต้องการน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 5,000 ตัน พร้อมทั้งจะมีส่งเสริมให้รถ ขสมก. กว่า 13,000 คัน และรถไฟ เรือประมง ใช้ B 20 ซึ่ง B20 จากเดิมกำหนดใช้ 15 ล้านลิตรต่อเดือน น่าจะขยายขึ้น
“สิ่งที่สมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทยเรียกร้องว่าให้ผลิต B10 โดยรัฐไม่ต้องซัพพอร์ต ซึ่งที่ B20 มีการกันเงินจากกองทุนน้ำมันไว้ 3,000 ล้านบาท ถ้าทำ B10 ใช้ทั่วไปไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐมาชดเชย ซึ่งไม่ได้รับการตอบรับทั้งๆ ที่การประชุม กนป.ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 มีการรับปากในที่ประชุมว่าจะทดสอบภายใน 3 เดือน และจะให้คำตอบ วันนี้ไม่ได้คำตอบจึงต้องรอต่อไป อย่าไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการกำชับให้มีการเดินหน้าต่อไปส่วนเรื่องของการส่งออกที่อนุมัติงบแก้ปัญหาปาล์ม 525 ล้านบาท น่าจะมีการทบทวนหรือชะลอออกไป เพราะราคาในต่างประเทศต่ำกว่าราคาที่ตั้งเป้าหมายกันไว้วันนั้น ตลาดขณะนั้นอยู่ที่ 19 บาท แต่รัฐซัพพอร์ต 1.75 บาท ในการขนส่งในการเก็บ ในการทำอะไรต่างๆ ซึ่งส่งออก 19 บาท ณ วันนี้อยู่ที่ 16-17 บาท เพราะฉะนั้นให้ทบทวนและนำมาใช้ภายในประเทศซึ่งล้นอยู่ประมาณ 1.8 แสนตัน” นายชัยฤทธิ์ กล่าว
นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า กรณีปัญหาการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์มยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในคณะกรรมการฯที่มีการนำเสนอว่า น้ำมันปาล์มขณะที่ผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศลด แล้วอัตราการกินการใช้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1.6-1.7 แสนตัน แต่สต๊อกไม่ลด จึงทำให้สับสน เมื่อสมาคมฯมีการออกข่าวจึงมีการตรวจจับน้ำมันปาล์มเถื่อนบ้างเป็นบางช่วง แต่รายใหญ่ๆ เป็นแสนๆ ตัน น่าจะไม่ได้จับ ฉะนั้นในแท๊งค์จึงไม่ลด มีการสอบถามถึงน้ำมันปาล์มที่หาย 7.8 หมื่นตัน เรื่องไปถึงไหนแล้ว เพียงบอกว่าอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เรื่องนี้หากยังไม่คืบหน้าจะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งทั้งประเทศ โดย จ.สุราษฎร์ธานี แจ้งว่าจะไปทำเนียบรัฐบาล และ จ.กระบี่ ให้การสนับสนุน ดังนั้น จ.ตรัง คงต้องเข้าร่วมเหมือนกัน ต้องร่วมมือกันทั้งประเทศจะมีการประชุมหารือกันอีกรอบ ซึ่งในส่วนของ จ.ตรัง จะประชุมกันในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
