พบซาก ‘ฉลามครีบดำ’ ในกระสอบลอยหน้าอ่าวมาหยา หน.อุทยานฯสั่งสอบจ่อเอาผิด

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการแชร์ภาพซากฉลามหูดำ หรือฉลามครีบดำ โดยผู้ใช้ไลน์แอพพลิเคชัน ชื่อ “Andrew Hewett” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการดำน้ำที่เกาะพีพี ได้โพสต์ภาพใน “กลุ่มแจ้งข่าวเกาะพีพี” เป็นภาพซากฉลามหูดำอยู่ในกระสอบปุ๋ย ส่วนหัวโผล่ออกมา ลำตัวและหางอยู่ในกระสอบ และระบุว่า เจอฉลามดังกล่าวอยู่ในถุงกระสอบลอยน้ำบริเวณหน้าอ่าวมาหยา เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยพนักงานของบริษัทดำน้ำที่เกาะพีพี เป็นผู้พบและได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานทราบแล้ว ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากบริเวณหน้าอ่าวมาหยา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประกาศปิดอ่าวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้มีฉลามหูดำเข้ามาหากินหน้าอ่าวมาหยาจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่อุทยานคอยเฝ้าดูแล เหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น คาดว่ามีคนลักลอบมาจับฉลามหูดำบริเวณดังกล่าว แต่ไม่กล้านำออกมา เกรงจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมจึงทิ้งลงทะเล จึงเรียกร้องให้ตรวจสอบ

ด้านนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งว่า มีการพบซากฉลามหูดำลอยหน้าอ่าวมาหยาแล้ว ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่อุทยาน ได้ทำการตรวจสอบ และติดต่อกับคนที่พบซากฉลามหูดำว่า พบบริเวณจุดใด และซากฉลามหูดำอยู่ในสภาพอย่างไร เพื่อจะได้ตรวจสอบว่า มีการลักลอบจับในเขตอุทยานหรือไม่ หรือฉลามว่ายไปติดในกระสอบเอง เพราะหลังจากที่กรมอุทยานปิดอ่าว มีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานคอยเฝ้าตลอด ทั้งนี้ถึงแม้ว่าฉลามหูดำจะไม่ได้เป็นสัตว์สงวนฯ แต่หากตรวจสอบว่ามีการลักลอบจับในเขตอุทยาน ก็ถือว่ามีความผิด ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504

“อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประกาศปิดอ่าว ห้ามทำกิจกรรมท่องเที่ยว รวมระยะเวลากว่า 5 เดือน ส่งผลให้ฝูงฉลามหูดำจำนวนมากเข้ามาแหวกว่ายหากินบริเวณหน้าอ่าวมาหยา เนื่องจากระบบนิเวศอ่าวมาหยาได้มีการฟื้นฟู หลังมีการปิดอ่าว ห้ามทำกิจกรรมท่องเที่ยว เรือหางยาว เรือสปีดโบท เข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งนี้ฉลามหูดำมีความสำคัญต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก” นายวรพจน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image