เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นราธิวาส 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนขังและเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านคอลอปีแน ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้ถนนสายตันหยงมัส-บ้านสโลว์ ถูกน้ำท่วมถนนสูง 20-30 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรไปมาเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมวลน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในเวลากลางคืนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำขึ้นสูงเข้าท่วมสวนยางพารา สวนปาล์มที่ปลูกไว้ริมคลอง ซึ่งเป็นทางน้ำเดิมจนชาวบ้านบางส่วนต้องใช้เรือท้องแบนสัญจรลัดไปทางสวนยางเพื่อออกถนนใหญ่
ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่ม ต้องเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์และสัตว์เลี้ยงไปไว้บนถนนหน้าบ้านพร้อมจัดเวรยามผลัดกันเฝ้า แต่ยังโชคดีที่บ้านบางหลังปลูกไว้แบบยกพื้นสูง แต่สะพานเดินเข้าบ้านยังถูกน้ำท่วมสูงจนต้องหาช่างมายกให้สูงเหนือน้ำอีกครั้งก่อนที่มวลน้ำขนาดใหญ่จะเข้ามาสมทบในสัปดาห์หน้า หากคลองตันหยงมัสเกิดล้นตลิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ล่าสุดอยู่ที่ 8.200 มิลลิเมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 1 เมตร และเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวัง และขอให้ชาวบ้านเตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูงได้ทันที และเฝ้าฟังการแจ้งเตือนจากกรมอุตุฯอย่างใกล้ชิด ส่วนแม่น้ำสายบุรี วัดที่บ้านท่าเรือ ต.บาตง อ.รือเสาะ อยู่ที่ 7.650 เมตร ต่ำกว่าตลิ่งเพียง .1850 ม. และแม่น้ำบางนรา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.850 ม. ยังพอรับมวลน้ำได้อีก
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปทั้ง 13 อำเภอ ฟ้ามืดมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง แต่จะตกหนักในช่วงกลางคืน คลื่นในทะเลที่หาดนราทัศน์เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสสูง 3 เมตร ลมแรง เรือขนาดเล็กและขนาดกลางยังต้องงดออกทะเล
