ตร.รวบโจรปล้นร้านทองตลาดโรงเกลือ รับสารภาพนำไปใช้หนี้!

จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายปล้นร้านทอง ห้างเพชรทอง โกลด์เด้น ไนน์ตี้ไนน์ บ้านเลขที่ 577 ถนน กม5 ฝั่งซ้าย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในบริเวณตลาดโรงเกลือ  เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นข่มขู่ ผู้จัดการร้านทองฯ ชิงทองรูปพรรณ แล้วหลบหนีไป ทรัพย์สินที่เสียหาย เป็นทองรูปพรรณ น้ำหนัก 5 บาท จำนวน 4 เส้น น้ำหนัก 4 บาท จำนวน 2 เส้น รวมน้ำหนัก 28 บาทคิดเป็นเงินจำนวน 576,520 บาท

โดยการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายสุรศักดิ์ แสนเลิศ อายุ 27 ปี  หมู่ 3 ต.ผักขะ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จึงได้อนุมัติศาลจังหวัดสระแก้ว ออกหมายค้น เพื่อดำเนินการจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจคลองลึก สนธิกำลังเข้าตรวจค้น ตามหมาย และผลหารตรวจค้น พบ สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท จำนวน 1 เส้น ที่ถูกชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น โดยขายทองที่ชิงทรัพย์แล้วไปซื้อมา แหวนทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง โดยขายทองที่ชิงทรัพย์แล้วไปซื้อมา รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮา รี่นฟีโน่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน อธว 925 กรุงเทพฯ เป็นคันที่ใช้หลบหนีจากนั้น เจ้าหน้าที่ที่ตำรวจจึงจับกุม ในข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้พาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน   พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้วทุกนาย ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ผกก.สภ.คลองลึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า 100 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย ได้นำตัว นายสุรศักดิ์ แสนเลิศ ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบการรับสารภาพ ที่ร้านทอง ห้างเพชรทอง โกลด์เด้น ไนน์ตี้ไนน์ หรือ G99 และตามเส้นทาง ที่ผู้ต้องหาชิงทรัพย์แล้วหลบหนีไป

สำหรับบรรยากาศ โดยรอบบริเวณร้านทองฯ มีชาวกัมพูชา ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างยืนมุงดุ ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ยืนอยู่บนฟุตบาท ตรงข้ามกับร้านทองฯ เป็นทางยาวกว่า 300 เมตร และตลอดเส้นทางที่ มีการทำแผน ประกอบคำสารภาพ จนถึงห้างสรรพสินค้า สตาร์พลาซ่า ที่คนร้านเดินไป วิ่งไปและขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่เตรียมไว้หลบหนีไป ส่วนชาวกัมพูชา ที่มามุงดุต่างนำเอามือถือมาถ่ายรูปไว้ และพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ร้าย เป็นคนไทยหรือคนกัมพูชา จากนั้น ได้ชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยว่า จับตัวได้เร็วมาก ไม่เหมือนกัมพูชา กว่าจะจับได้นาน และคนที่ไปแจ้งเบาะแสก็จะไม่ปลอดภัยอีกด้วย

Advertisement

ส่วน พ.ต.อ.เสกสรรค์ วัฒนพงษ์ ผกก.คอลงลุก กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ผู้ต้องหา มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน เนื่องจาก มีหนี้สินจำนวนมาก ปรกะอบกับ ผู้ต้องหาเคยทำงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และเดินทางจะผ่านร้านทอง พอเห็นว่าร้านนี้ เป็นร้านที่มีสุภาพสตรี เป็นพนักงานทั้งหมด ในส่วนของความดูแลความปลอดภัย ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจในวงรอบเป็นประจำ และที่เข้ามาชิงทรัพย์ ก็ด้วยมีความจำเป็น ในการใช้หนี้ และการทำงานในครั้งนี้ เจ้าหน้าทีไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนทำงานได้ประสบผลสำเร็จ 5 วัน 4 คืน

ด้าน พ.ต.อ. ผดุงศักดิ์ รักษาสุข รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า เหตุที่ผู้ต้องหา เขาเลือกลงมือในร้านทองแห่งนี้ เขาสารภาพว่า เป็นสภาพการที่อ่อนไหวที่สุด มีพนักงานเป็นผู้หญิงทั้งหมด ไม่มีผู้คุ้มกัน จึงตัดสินใจลงมือทำ จึงขอฝากไปยังร้านทองทุกที่หากเป็นไปได้ ให้หามาตรการป้องกัน เช่น มี กล้องวงจรปิด และที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ในวันนี้ ดูจากกล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่องจนสามารถติดตามหาคนร้ายได้

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า ขอเรียนว่า คดีทุกคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดสระแก้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุแล้ว ตำรวจเราสามารถที่จะจับกุมได้เพราะความสามัคคี ของเจ้าหน้าที่ ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วย ตั้งแต่ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ฝ่ายศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจจังหวัดสระแก้ว ทุกนาย ร่วมบูรณาการสนธิกำลังทำงานอย่างสามัคคี ขณะนี้ความเข้มข้น ความแข็งแรงแนวชายแดนด้านจังหวัดสระแก้วและปอยเปต มีความมั่นคงอย่างสูง คดีที่เกิดขึ้น ถ้าจะมาหวังหลบหนีช่องทางนี้ ผมว่าไปไม่ได้ ขอเรียนให้ประชาชนทราบทุกคน สำหรับจับการจับกุมคดีชิงทรัพย์ร้านทอง คดีนี้ ใช้เวลา 5 วันกับ 4 คืน

ส่วน เจ้าของร้านทองฯ ได้มอบกระเช้า ดอกไม้ ให้กับ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ และกล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ ที่เสียสละเวลา ติดตามจับกุมคนร้ายได้ทันท่วงทีโดยใช้เวลาเพียง 5 วันเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image