เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สาขายะลา เป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในปี 2560 ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา และได้มีมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 เห็นชอบและอนุมัติการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เดินทางมาถอนเงิน ที่เคาน์เตอร์ภายในธนาคารและตู้เอทีเอ็มกันเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ธ.ก.ส. สาขายะลานี้ มีจำนวนเกษตรกรกว่า 12,000 ราย และยอดเงินกว่า 37 ล้านบาท ที่เกษตรกรจะมาถอนเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยทางธนาคารได้เตรียมเม็ดเงินสำหรับจ่ายให้เกษตรกรทุกรายไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทุกคนต่างดีใจ และขอบคุณรัฐบาลที่มอบเงินช่วยเหลือ ครอบครัวละ 3,000 บาท ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถช่วยได้มาก
นายพัชราวุธ แสงวันลอย ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. ยะลา เปิดเผยว่า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 รัฐบาลให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดสรรเงินตามมาตรการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ในส่วนของจังหวัดยะลามีเกษตรกรได้รับผลกระทบทั้งสิ้น จำนวน 33,400 กว่าครัวเรือน โดยจะได้รับเงิน ครอบครัวละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน ประมาณ 107 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรก็สามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที ทาง ธ.ก.ส. ได้โอนเงินเข้าบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา
ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่ามีเกษตรกรเบิกเงินออกไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท และในช่วงนี้ทุกสาขาของธ.ก.ส.ก็จะมีเกษตรกรในพื้นที่เดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามทางพนักงานของธ.ก.ส. มีความพร้อมในการให้บริการอย่างเต็มที่ ส่วนการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงนี้ เนื่องจากทางภาคใต้จะเป็นช่วงมรสุม พี่น้องเกษตรกรภาคใต้ก็จะมีผลกระทบโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ดังนั้น ก็ขอให้เกษตรกร ที่อาจจะประสบอุทกภัยในปีนี้ ให้เตรียมข้อมูลเอาไว้เพื่อติดต่อ ธ.ก.ส.เพื่อจะมีมาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้ หรือขยายเวลาชำระหนี้ออกไป
