• ในห้วงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกว่าชาวนาได้เฮกันถ้วนทั่ว เมื่อราคาข้าวหอมมะลิพุ่งพรวดเกือบเท่าตัว เฉลี่ยตันละ 15,000-17,000 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา โรงสีโคราชบอกว่าช่วงนี้ชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวมาขาย เพราะราคาพุ่งสูง แต่ยังติดที่เจอภัยแล้งคุกคามในพื้นที่ ทำให้ผลผลิตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ถือว่าถัวเฉลี่ยเกลี่ยกันไป กับราคาขายที่พอให้อ้าปากลืมตา ด้านภาพรวมราคาข้าว นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยเมืองเก่าอยุธยาชี้ หอมมะลิราคาแพงทั่วไทย ปีนี้เกษตรกรเฮถ้วนหน้า สูงที่สุดอยู่ที่นครพนม ด้วยเป็นข้าวคุณภาพสูง เกี่ยวสดราคาอยู่ 16,000 บาทต่อตัน หากตากแห้ง 19,500 บาท ส่วนอีสานใต้และอีสานกลาง ราคาลดลงเล็กน้อยเท่านั้น อยู่ประมาณ 15,000 บาทต่อตัน สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่ปลูกนอกเขตอีสาน แต่เป็นสายพันธุ์หอมมะลิ 105 ราคาก็ยังดีตามขึ้นด้วย ขอเอาใจช่วยให้คงราคางามๆ แบบนี้ ฉลองส่งท้ายปี’61
• 15 พ.ย.นี้ ชาวสวนยางก็มีเฮ ไม่ใช่ราคาที่พุ่งเหมือนราคาข้าว แต่แกนนำชาวสวนยางรายย่อยเมืองตรังเตรียมเฮกันเคลื่อนไหวเรียกร้อง หน้าศาลากลางจังหวัดตรังหลังเก่า จากราคายางที่ต่ำเตี้ยเรี่ยราดหนักทั้งประเทศ เสี่ยงอดตายกันทั้งระบบ ชวนรวมตัวเปิดเวทีระบายความทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้น ร่วมพูดคุยกับนักวิชาการ เพราะปัญหานี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 20 ปีทีเดียว แถมยังกระทบระบบเศรษฐกิจรวมภาคใต้ ใครที่เดือดร้อนชักชวนกันมาถกปัญหาได้ เพื่อส่งปัญหาเสนอรัฐแก้ไขต่อ
• หลังจากกระแสการท่องเที่ยวในเมืองไทยเริ่มตก จากพิษทัวร์จีนที่หันเหไปเยือนประเทศอื่น กอปรกับเข้าใกล้ช่วงปีใหม่ ทำให้รัฐหันมากระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง มีผลตั้งแต่ 1 ธันวาฯนี้เป็นต้นไป จนถึง 31 ม.ค.2552 รวมเวลา 60 วัน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมรายละประมาณ 2,000 บาท รวม 21 ประเทศ อาจกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไทย เพราะช่วงนี้ไทยเราเริ่มหนาวเย็น “ยอดดอยอินทนนท์” เหมยขาบเกิดบ่อยครั้งขึ้น ทำเอานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ อดไปเยือนมิได้ เช่นกันกับ “ดอยหลวงเชียงดาว” อุณหภูมิที่ลดต่ำลง ทำให้มีหมอกหนาปกคลุมยอดดอย สวยงาม และน่าประทับใจแก่ผู้ที่มาพบเห็นอย่างมาก ส่วนดอยอ่างขาง อ.ฝาง อุณหภูมิลดลงเหลือ 8-9 องศาเท่านั้น ดอกไม้พากันผลิบานรอต้อนรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวอย่างละลานตา ใครมีเวลาเชิญไปเยือนกันได้ เมืองไทยมีธรรมชาติสวยงามมากมายไม่แพ้ประเทศใดในโลก
• นอกจากช้างป่าวังน้ำเขียวที่ออกมาอวดโฉมให้ผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาได้ชมโฉมแล้ว ผู้ใช้รถที่สัญจรผ่าน “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ระหว่างเส้นทางขาลงจากแคมป์บ้านกร่าง หลัก กม.ที่ 13 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ต้องตื่นเต้นกับการได้ยลโฉม “เสือดาว” ตัวเป็นๆ ที่ย่างเท้าออกมาจากป่าให้ได้เห็นแบบจะจะตา แถมเสือดาวตัวดังกล่าวยังไม่แสดงอาการดุร้ายใดๆ เมื่อเห็นรถยนต์ขับผ่านมา แถมนั่งมองสักพักก่อนกระโจนหายเข้าป่า นี่เป็นสัญญาณแสดงว่าผืนป่าแก่งกระจานอุดมสมบูรณ์เพียงใด มีแหล่งน้ำ แหล่งอาหารให้สัตว์ได้อาศัย และในอนาคต เราอาจเห็น “เสือโคร่ง” ออกมาอวดโฉมบ้างก็เป็นได้
• ชาวประมงกำลังแย่ ช่วงนี้เรือประมงตรังแห่ขึ้นป้ายขายเรือทิ้ง จากปัญหาหลายสิ่ง ทั้งจากเรื่องกฎระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ปัญหาแรงงาน ล่าสุดยังถูกซ้ำเติมจากราคาน้ำมันแพง และสัตว์น้ำจากเมียนมา เข้ามารุกตีตลาด ทำให้เจ้าของเรือบ่นอุบ ขาดทุนยับในการออกทำประมงแต่ละเที่ยว ถึงขั้นต้องปิดป้ายประกาศขายเรือ ส่วนที่เหลือก็จอดลอยลำไม่กล้าออกหาปูปลา เกรงว่าจะขาดทุนซ้ำซากจนยากแก้ไข หลายคนหันเหไปทำอาชีพอื่น หาเงินจุนเจือครอบครัว ให้ลืมตาอ้าปากได้ต่อไป เห็นอย่างนี้หน่วยงานไหนที่เกี่ยวข้อง ไม่หันมองบ้างเชียวหรือ สงสัยต้องให้ลุกฮือก่อนค่อยเร่งแก้ แบบลูบหน้าปะจมูกซ้ำๆ ซากๆ
นางสาวรักดี
