หญิงวัย 66 ปี จัดงานศพลูกสาวจะเผาศพช่วงบ่าย แต่ห่วงงานที่ตนเองรับผิดชอบขอตัวแขกที่มางานศพลูกสาวออกมาเปิดร้านคลีนิคที่รับจ้างดูแลทำความสะอาด และหายตัวไปในช่วงเที่ยงไม่ได้กลับมาเผาศพลูกอีกเลย มาพบอีกทีกลายเป็นศพในพงหญ้าข้างถนน
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 พ.ย. 2561 ร.ต.อ.หญิง วิรัลพัชร วรพงศ์ปกรณ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพหญิงนอนคว่ำหน้าภายในพงหญ้าริมถนนสายบ้านวังพิกุล ม.9 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา รุดไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนภายในพงหญ้าพบศพหญิงสภาพศพขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-6 วัน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ100 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 312 พิษณุโลก ล้มคว่ำอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำศพผู้ตายขึ้นมาทำการตรวจสอบสภาพศพเน่าเฟะ และทราบชื่อต่อมาคือ นางนกเล็ก ขาวสะอาด อายุ 66 ปี ชาวตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก จากการตรวจสอบสภาพศพในเบื้องต้น พบแหวนทอง 1 วง ส่งศพไปทำการชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ตายทางญาติได้มีการแจ้งความคนหายไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านก็ได้มีการออกตามหาตัวมาโดยตลอด แต่ก็ไม่พบตัว จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาบริเวณจุดดังกล่าว และได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากป่าริมทาง จึงจอดรถลงไปดูก็พบศพผู้ตายพร้อมรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุการตายนั้นต้องรอทางเจ้าหน้าที่นิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ตายได้หายตัวออกมาจากวัด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 ขณะกำลังจัดงานศพให้ลูกสาวและกำลังจะเผาในเย็นวันเดียวกัน แต่ผู้ตายซึ่งมีอาชีพรับจ้างเปิดปิดคลินิกและทำความสะอาด ได้ขอตัวแขกที่มาร่วมงานโดยบอกกับทุกคนว่าขอตัวไปเปิดคลีนิคและทำความสะอาดสักครู่และจะรีบกลับมาร่วมงานเผาศพบุตรสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวัดไป และหายตัวไป ซึ่งชาวบ้านก็ได้ออกตามหาทุกวัน จนกระทั่งมาพบกลายเป็นศพดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต คงต้องรอผลชันสูตรจากเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือไม่อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งศพผู้ตายให้แพทย์ทำการชันสูตรพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อไป.
