เครือข่ายแกนนำชาวสวนยางรายย่อยทั้งใน จ.ตรัง และเครือข่ายทั่วภาคใต้ เตรียมนัดรวมตัวกันในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลปัญหาความเดือดร้อน หลังเกิดปัญหาราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
นายศักร์สฤษฎิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพารารายย่อย จ.ตรัง กล่าวว่า เดิมทีได้กำหนดให้วันที่ 15 พ.ย.นี้ เป็นวันปรากฎตัวพร้อมๆ กันของพี่น้องชาวสวนยาง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางตกต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากมีกระแสข่าวออกไป ทำให้ได้รับการติดต่อจากเครือข่ายต่างๆ ทั่วภาคใต้ ว่า จะขอมาร่วมด้วย จึงจำเป็นต้องเลื่อนเป็นวันที่ 20 พ.ย.แทน ซึ่งในการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะมีการให้ข้อมูลความเป็นจริงเกี่ยวกับปัญหายางพาราที่เกิดขึ้น จะเป็นการพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวสวนยาง และจะมีการยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ตนเองมองว่า รัฐบาล คสช.โดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ แต่ขาดการใส่ใจ ติดตาม ให้เกิดเป็นผลรูปธรรมที่ชัดเจน ทำให้ปัญหาราคายางพารายังเกิดขึ้นซ้ำซาก เหมือนลิงติดอวน เพราะผลประโยชน์ตกอยู่กับกลุ่มข้าราชการ และพ่อค้าคนกลางบางกลุ่มบางคน ส่วนเงินงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรลงมาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่แท้จริง กลับไม่ได้รับ และกำลังเดือนร้อนอย่างแสนสาหัส จนส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ ทั้งภาคใต้และประเทศไทย เพราะหากราคายางดี ธุรกิจอื่นๆ ก็จะได้รับอานิสงค์ไปด้วย
นายศักร์สฤษฎิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพารารายย่อย จ.ตรัง กล่าวอีกว่า ตนจึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เอาจริงเอาจัง และหาให้เจอว่าปัญหายางอยู่ตรงไหน และหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน อย่าปล่อยให้เป็นพืชเศรษฐกิจการเมืองที่มีความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นตัวประกัน เพราะจากการศึกษาข้อมูลพบว่า ปริมาณการผลิตกับปริมาณการส่งออกตลอดรายะเวลาที่ผ่านมา มีความสมดุลกันแบบพอดี แต่ปัญหาคือ นายทุนได้กำไรมากเกินไป จนทำให้ได้รับความเดือนอย่างหนัก ตนเองคิดว่ายางพาราไทยยังมีอนาคตอย่างแน่นอน และยังมีความต้องการอย่างมหาศาล แต่ปัญหาคือ ผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรม
