ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ มั่นใจ เอาผิดผู้ต้องหา “ข้าวกล่อง” ได้ ส่วนอิ๋วนอนคุกยาวคดีเก่า

กรณีนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268/2 หมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และนางจอก นุชศรี อายุ 60 ปี ถูกนางกัญจ์หทัย สุกใส อายุ 41 ปี ชาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ นางธนิตา จันทร์อิ่ม อายุ 43 ปี ชาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ หลอกให้ทำข้าวกล่องและน้ำดื่มส่งให้กับโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก แต่โรงงานไม่เดินทางมารับของ ทำให้ผู้รับจ้างสูญเงินลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ภ.จว.) อุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พยูร์ ธนะศรีสืบวงศ์ รักษาราชการแทน (รรท.) ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์แล้วจำนวน 2 รายคือ นางธนิสร และน.ส.นพเก้า พนมใส อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ต.เมืองยาง อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา ถูกหลอกให้ทำน้ำส้มเกล็ดหิมะ เหตุเกิดที่ในท้องที่ของ สภ.พญาแมน อ.พิชัย ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 2 คน ให้ให้ปากคำกับ พ.ต.อ.คีรี เกียรติสาร รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ในฐานะประธานการสอบสวนที่ตั้งขึ้นมาดูแลคดีนี้โดยเฉพาะแล้ว ส่วนรายอื่น ๆ ทราบว่ามีหลายราย แต่ยังไม่เข้ามาดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันผู้ต้องหาก็ยังมีเพียง 2 คน ผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ก็ยังไม่มีแต่อย่างใด

พล.ต.ต.พยูร์ กล่าวว่า จากหลักฐานพยานเอกสารซึ่งเป็นใบโอนเงินจากผู้เสียหายให้กับผู้ต้องหา ตลอดจนพยานบุคคลมีน้ำหนักเพียงพอที่จะมัดตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ คดีนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กำชับมาว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนทำงานให้รัดกุม รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมทั้งให้ทำการขยายผลและจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ ถ้าหากพบว่ามี ส่วนสำนวนคดีนี้จะเสร็จและส่งฟ้องเมื่อไหร่ก็จะพยายามทำให้เร็วที่สุด วันนี้ได้กำชับไปยัง พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ให้อำนวยความสะดวกและเตรียมความพร้อมเพื่อรับแจ้งความร้องทุกข์อีก 1 รายคือ น.ส.นภัสวรรณ ยิ้มเจริญ อายุ 26 ปี ชาว ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 รายหลอกเป็นเงินรวมมากกว่า 3 ล้านบาท ทำให้บิดาเกิดอาการเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตไปแล้ว โดยจะมีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะพาผู้เสียหายมาแจ้งความในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายนนี้

“มีผู้เสียหายบางรายที่แต่ยังไม่เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ไปออกรายการทีวีและมีการกล่าวอ้างว่า น้ำข้าวกล่องส่วนหนึ่งที่จะส่งให้กับโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลกแล้ว จะนำไปให้กับบ่อนการพนันในพื้นที่ ต.พญาแมน เรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของตำรวจอย่างมาก เพราะไม่ใช่เรื่องจริงเป็นเพียงการกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่บอกกับผู้เสียหายให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้น ไม่มีการทำข้าวกล่องหรือน้ำดื่มเกิดขึ้นจริง มีเพียงการโอนเงินประกันล่วงหน้าเท่านั้น และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นต้นปี 2559แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่มีข่าวการหลอกลวงให้ทำข้าวกล่อง ซึ่งให้เจ้าหน้าที่พิจารณาข้อกฎหมายว่า จะทำดำเนินการอย่างไรกับผู้กล่าวอ้างแบบนี้ และไม่ต้องตั้งกรรมการขึ้นมาทำการสอบสวนหรือสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แต่อย่างใด” พล.ต.ต.พยูร์ กล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.พยูร์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายคือ นางกัญจ์หทัย สุกใส หรือ อิ๋ว อายุ 41 ปี ชาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ นางธนิตา จันทร์อิ่ม หรือ ป้าง อายุ 43 ปี พนักงานสอบสวนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่มีญาติพี่น้องมาขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใด และศาลก็ไม่ให้ประกันตัว โดยนางกัญจ์หทัย หรือ อิ๋ว ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดียาเสพติดที่ตัดสินจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท ถูกจำคุกในคดีนี้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีฉ้อโกงที่เกิดขึ้นกรณีหลอกลวงทำข้าวกล่องก็จะต้องต่อสู้คดีกันต่อไป แต่คดีนี้สามารถยอมความได้ หากผู้เสียหายและผู้ต้องหายอมความยอมชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่น่าพอใจกันแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image