ไฟลุกท่วมร่างสาหัส 2 ราย..ตำรวจทำแผน หลังจับอดีตกำนัน ต.ทุ่งเทิง จ.อุบลฯ ทะเลาะวิวาทกับน้องเขยก่อนราดน้ำมันถูกแม่ยายของน้อยเขยขณะเข้ามาห้ามอีกคน ก่อนชกต่อยชุลมุนจนเกิดไฟลุกทุ่มร่างสาหัส 2 ราย พบต้นเพลิงน่าจะติดมาจากกองไฟเผาขยะหน้าบ้านหลังเสร็จงานศพพ่อตา
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ต.อ.เฉลิมพล คงสกุล ผกก.สภ.สำโรงทาบ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมเกียรติ นิยมเหมาะ ร้อยเวรเจ้าของคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงทาบ ได้ควบคุมตัวนายอำพร บุดดีภัก อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นอดีตกำนัน ต.ทุ่งเทิง ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากผู้ต้องหาใช้น้ำมันเบนซินราดใส่ตัว นายบุญโสม ควรสุข อายุ 38 ปี และนางจำลอง บุญกล้า อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของนายบุญโสม ขณะทะเลาะวิวาทย์กันจนเกิดไฟลุกท่วมร่างนายบุญโสมและนางจำลอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 2 ราย
เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่บริเวณถนนข้างคอนกรีตหน้าบ้านเลขที่ 36 ม.5 บ.โคกเจริญ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ แต่พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นและชาวบ้านมายืนรออยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่นำตัวผู้ต้องหาลงจากรถเพื่อทำแผน เกรงจะเกิดอันตรายจากการรุมประชาทัณฑ์ของชาวบ้าน จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวไปทำแผนต่อตามเส้นทางที่หลบหนี โดยใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขธม 672 อุบลราชธานี ในการหลบหนี ก่อนจะอาศัยจังหวะที่กลุ่มชาวบ้านสลายตัวกลับเข้าไปทำแผนที่บ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่ สภ.สำโรงทาบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายที่ถูกไฟคลอกบริเวณลำตัว หน้าขา แขน ใบหน้าและศีรษะ ถูกนำตัวส่ง รพ.สำโรงทาบก่อนจะถูกส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.สุรินทร์ อย่างเร่งด่วนเพราะอยู่ในอาการสาหัส
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เฉลิมพล คงสกุล ผกก.สภ.สำโรงทาบ เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนี ก่อนจอดรถไว้และขึ้นรถโดยสารกลับไปบ้านเมียเก่าที่ จ.อุบลราชธานี โดยผู้ต้องหา สารภาพว่าที่หลบหนีไปเพราะกลัวว่าชาวบ้านจะรุมทำร้าย เพื่อตั้งหลักที่บ้านเมียเก่า และเตรียมจะติดต่อขอมอบตัวแต่ถูกตามจับกุมได้เสียก่อน เมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้จุดไฟเผา ผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด โดยผู้ต้องหามีศักดิ์เป็นพี่เขยของนายบุญโสมผู้บาดเจ็บ ระบุว่าไม่มีไฟแช็คเพราะไม่ได้สูบบุหรี่
โดยเกิดเหตุหลังเสร็จสิ้นการจัดงานศพของพ่อตา ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ได้ถือขวดน้ำมันเบนซิน 1.5 ลิตรเพื่อจะนำไปเติมรถจักรยานยนต์พ่วงข้างและจะออกไปดูที่นาเตรียมจะเกี่ยวข้าว ระหว่างนั้นน้องเขยกำลังจะขับรถกลับบ้าน แต่พอขับเลยไปกลับขับรถถอยหลังกลับมาและเปิดกระจกด่าทอตนเอง จนเกิดปากเสียงกัน จนตนเองเกิดบันดาลโทษะ จึงราดน้ำมันใส่น้องเขยขณะนั่งในรถ จากนั้นน้องเขยจึงลงมาจากรถและเกิดชกต่อยชุลมุนกันกับตนเอง ก่อนที่แม่ยายของน้องเขยจะวิ่งมาห้ามปราม ระหว่างนั้นน้ำมันที่อยู่ในขวดก็กระเด็นไปติดแม่ยายด้วย ระหว่างที่ชุลมุนกันอยู่นั้นก็เกิดไฟลุกพรึบท่วมร่างทั้ง 2 คน ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่า ตนเองก็ตกใจว่าไฟลุกมาได้อย่างไร
จากนั้นตนในฐานะ ผกก.จึงลงพื้นที่หลังเกิดเหตุ ก็พบว่ามีเศษกองเพลิงที่เผาขยะที่เหลือจากงานศพ อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุจริง และอาจจะเป็นไปได้ว่า ช่วงทะเลาะวิวาทกัน อาจถูกเปลวไฟลุกลามมาติด เพราะน้ำมันเบนซินติดไฟง่ายและเร็วอยู่แล้ว อีกทั้งจากสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่ามีกองเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณนั้นจริง และก็พบว่ามีเศษซากกองเพลิงที่เผาขยะอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจริงอีกด้วย และได้สอบถามไปยังผู้บาดเจ็บช่วงแรกระบุว่าตนเองก็ไม่ได้สูบบุหรี่และไม่มีไฟแช็คเช่นกัน ในเบื้องต้นตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ส่วนข้อหาอื่นหรือพยายามฆ่านั้น ยังไม่พบว่ามีเจตนาหรือข้อมูลเชื่อมโยงเกี่ยวข้องถึงการเตรียมพร้อมที่จะก่อเหตุมาล่วงหน้าแต่อย่างใด
ด้านนางบุญโฮม ควรสุข อายุ 41 ปี พี่สาวของนายบุญโสม และเป็นภรรยาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้าน ไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรกัน พอได้ยินเสียงชุลมุนกันและเห็นไฟลุกพรึบขึ้นมา จึงวิ่งมาดูก็พบว่าแม่ยายของน้องชายและน้องชายถูกไฟคลอกอยู่จึงช่วยกันดับและนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีก็บอกว่าไม่ได้จุดไฟเผา ก่อนจะขับรถหนีไป ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ ว่าสามีกับน้องชายมีปัญหาอะไรกัน ส่วนเงินประกันชีวิตประกันศพของพ่อต่างๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบสามีของตน มีคนว่าสามีของตนเป็นคนพูดจาไม่เพราะ แต่เท่าที่มาอยู่กับตนได้ 2 ปีแม้ไม่ได้แต่งงานกันก็ตาม ก็ไม่พบว่าเคยมีปัญหากับใคร คอยดูแลพ่อตาและหลาน 10 ขวบเป็นอย่างดี ทำบ่อเลี้ยงกบ ทำนา จนพ่อของตนเสียชีวิตจึงได้จัดงานศพ สามีก็รับผิดชอบดูแลงานศพทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ตนเสียใจเป็นอย่างมาก และก่อนจะเกิดเหตุก็เห็นสามียกเตาแก๊สใส่รถและนำถุงปุ๋ยขึ้นรถ จยย.พ่วงข้าง น่าจะออกไปที่นาส่วนน้ำมันก็ถือจะไปใส่รถ จยย.พ่วงข้างขี่ไป ส่วนน้ำมันก็ซื้อใส่แกลลอนตามปกติ เพื่อใส่เครื่องตัดหญ้ารถไถ และรถ จยย.อยู่แล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้
