เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ต.อ.วันชัย พิทักษ์ตันสกุล ผกก.สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สั่งการให้ ร.ต.อ.สมบัติ วังวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี รองสารวัตรเวร(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้าทำการจับกุมผู้ก่อเหตุคดีทำร้ายบุพการี (บิดา) บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. และเสียชีวิตในค่ำคืนวันเดียวกันหลังจากนำส่ง รพ.กบินทร์บุรี ญาติๆ ติดใจในการเสียชีวิตจึงเข้าแจ้งความให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีด้วย ญาติผู้ตายให้การว่าผู้ก่อเหตุติดยาเสพติด (ยาบ้า) มักมีอารมณ์คุ้มคลั่งเวลาเสพยามึนเมา จนก่อเหตุทำร้ายพ่อจนเสียชีวิตดังกล่าว ขณะนี้ศพยังตั้งบำเพ็ญที่วัดหนองจิก ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
หลังจากสืบทราบว่าผู้ต้องหา นายวิชัย กำลังรัมย์ อายุ 26 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บ้านญาติทางแม่ในละแวกเดียวกัน โดยนายวิชัยให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับแม่อยู่บนบ้านยกพื้นสูง ขณะนั้นนายสิทธิ กำลังรัมย์ อายุ 57 ปี ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาต่อว่าแม่ ตนได้ห้ามพ่อไม่ให้ทำร้ายแม่ แต่พ่อกลับไม่หยุดด่าว่าแม่และตนเอง อย่างเสียๆหายๆ พ่อจะเข้ามาทำร้ายแม่ พร้อมทั้งด่าว่าตนเองเสพยาตนบอกเมาแล้วอย่าพูดไปเรื่อย หยุดได้แล้ว แต่พ่อยังกล่าวหาว่าแม่เข้าข้างตนเอง
ตนบอกให้พ่อนอนเสีย เมาแล้วพูดไม่รู้เรื่อง ทันใดนั้นพ่อส่งเสียงดังและพูดว่า วันนี้อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง พ่อเดินถือค้อนตีตะปูเข้ามาหา ตนเห็นท่าไม่ดีมองเห็นเขียงวางอยู่ในครัว เมื่อเห็นพ่อเงื้อค้อนจะทุบตนกับแม่ จึงใช้เขียงยกป้องกันตัวพร้อมทั้งดันๆให้พ่อถอยหลังมาที่ที่นอนซึ่งอยู่ถัดมา 5 เมตร จากนั้นก็นั่งลงเพื่อจะกินข้าวต่อกับแม่
ฝ่ายพ่อเดินเข้ามาหาอีกครั้ง จึงใช้เขียงดันพ่อให้ถอยห่าง พ่อใช้ค้อนทุบมาถูกตนเองอย่างแรงหลายครั้ง จนเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเสียงดังโครมครามๆพักใหญ่ต่างคนต่างป้องกันตัว อึดใจใหญ่เห็นพ่ออ่อนแรง และเงียบไปและได้เอาเขียงกับไม้ไปซุกไว้ในห้อง
กระทั่งมาดูพบว่าพ่อนอนซมพูดเจ็บๆที่หัว จึงให้แม่บอกญาตินำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี ตนเองหนีออกจากบ้านไปและพ่อเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
วันนี้ (9 พ.ย.) หลังจากถูกจับได้ตำรวจตรวจพบฉี่สีม่วง และนายวิชัยยอมรับว่าเพิ่งเสพยาหลังทะเลาะกับพ่อ นางแต้ม(นามสมมุติ) แม่ เล่าว่าพ่อเป็นฝ่ายหาเรื่องลูกชายก่อน สามีเป็นคนชอบกินเหล้า และก่อเหตุดังกล่าว
จากนั้นตำรวจได้นำตัวไปขอขมาศพพ่อที่วัดหนองจิก(วัดศรีสโมสร) ขณะนำตัวไปขอขมาศพพ่อที่วัดมีญาติๆฝ่ายพ่อพยายามที่จะบุกมาทำร้ายผู้ต้องหาหลายครั้ง ทั้งขามาและขากลับ แต่ตำรวจห้ามไว้ได้ทัน
พ.ต.อ. วันชัย กล่าวว่า หลังผุ้ต้องหาก่อเหตุได้หลบหนีมาอยู่บ้านญาติรอยต่อระหว่างบ้านหอบอิ ประจันตคาม กับ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี ต่อมาช่วงเย็นออกมาหาซื้อมาม่าไปกินชาวบ้านที่พบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที คดีนี้เป็นคดีทำร้ายบุพการีเสียชีวิตโดยมีโทษหนักเท่ากับฆ่าคนตาย และผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาจริง ซึ่งตรงกับชุดสืบสวนระบุว่าผู้ต้องหาอยู่ในกลุ่มเสพ จึงนำตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
