ส่งฟ้องอจ.ตุ๊ก พงส.ค้านประกันตัวเกรงหลบหนี พบหมายจับอื้อคดีล้มละลาย(ชมคลิป)

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ สภ.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางมาเพื่อควบคุมการสอบสวน นายโชคชัย ก่อการรวด หรืออาจารย์ตุ๊ก ผู้ต้องหาในคดีศาลออกหมายจับฐานฉ้อโกงประชาชน จากการจัดวิ่งการกุศลเพื่อมอบเงินให้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ภายใต้งานวิ่ง Charity Chonburi Marathon 2018 and Charity Concert for BUH เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยการจัดงานครั้งนั้นเกิดปัญหานักวิ่งไม่มีน้ำดื่ม ทำให้มีผู้บาดเจ็บถึง 2 คน ต่อมามีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ชลบุรี เพื่อเรียกร้องเงินชดเชยค่ารักษา รวมทั้งผู้จัดงานวิ่งการกุศลมีเงินผ่านบัญชีอย่างน้อย 8.2 ล้านบาท แต่มอบให้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา 549,414.89 บาท และเงินที่ประชาชนบริจาคจำนวน 456,100 บาท นอกจากนี้มีผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักวิ่งเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 13 ราย โดยในการสอบปากคำ นายโชคชัยให้การปฏิเสธ และขอไปให้การชั้นศาล ตำรวจจึงคุมตัวส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งในชั้นสอบสวน พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง เจ้าของคดีได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติการณ์ในการหลบหนีนายกิตติภัทร ชลศรานนท์ ประธานชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 กล่าวว่า หลังเดินทางพบตำรวจและมอบหลักฐานเอกสารต่างๆ ให้พนักงานสอบสวนแล้ว ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่เสนอข่าวให้สังคมได้รับรู้
ต่อมา นายพิศาล ทิพย์พิมล ที่ปรึกษาทนายความจังหวัดชลบุรี เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยแจ้งว่าเป็นทนายให้นายกิตติภัทร พร้อมกล่าวว่า ได้ขอร้องให้นายกิตติภัทรพูดความจริงทั้งหมด และหาผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งแจงพฤติการณ์ว่าใครทำอะไรไปบ้าง พร้อมหาหลักฐานมายืนยัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนำเงินไปใช้ในทางที่ผิดจากนั้น พ.ต.อ.ศักดิ์รพีเรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อขยายผลในคดีวิ่งการกุศลในครั้งนี้ จากนั้นกล่าวว่า หลังจากศาลจังหวัดชลบุรีอนุมัติหมายจับนายโชคชัยในข้อหาฉ้อโกงประชาชนแล้ว ได้เรียกประชุมตำรวจเพื่อขยายผลของการวิ่งการกุศลว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องด้วย เพราะการวิ่งกุศลคาดว่าได้เงินกว่า 10 ล้านบาท แต่มอบให้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 5 แสนบาทเศษ จะต้องมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน หากผู้ใดเกี่ยวข้องจะขยายผลต่อไป ส่วนกรณีข่าวนางเนียรนิภา เรือนใจดี แฟนสาวของนายโชคชัยมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการวิ่งการกุศลครั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีหมายจับเกี่ยวกับข้อหาการปลอมแปลงเอกสารในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย ซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดี รวมทั้งนายโชคชัย ตรวจสอบพบมีหมายจับศาลล้มละลายอีกหลายคดี ซึ่งตำรวจจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image