ยังจับตัวไม่ได้! อดีตทหารทำร้ายภรรยาบาดเจ็บ ขู่ปาระเบิด ครอบครัวหวั่นทำจริง

เมื่อเวลา 19.50 น.วันนี้ 11 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี อดีตทหารยศสิบโท ถูกไล่ออกจากราชการหลังทำร้ายผู้บังคับบัญชากลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 3 เดือน ระหว่างนั้นได้เกิดทะเลาะกับภรรยาที่อยู่กินกันมานานจนมีลูก 3 คน จนภรรยาต้องหอบลูกกลับมาอยู่กับพ่อ-แม่ จนอดีตสิบโทเกิดหึงหวงหวั่นภรรยามีชายอื่นได้กลับมาตามหาแต่ไม่พบเนื่องจากภรรยาไปทำงานโรงงานเข้ากะ เมื่อพบระหว่างภรรยาเข้าร้านค้าของชำ ได้ฉุดกระชากดึงขึ้นรถเก๋งและทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ตามที่ติดตามเสนอนั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.วีระพล สิทธิพันธุ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พร้อมตำรวจชุดสืบสวนสภ.ประจันตคาม ได้ไปที่หมู่บ้านโคกบ้าน หมู่ 12 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เพื่อเชิญตัว น.ส.พรพันธุ์ หรือ “บาร์” พุฒิกลาง อายุ 28 ปีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าที่กล้ามแขนขวากระสุนเฉียด รักษาที่ รพ.ประจันตคาม อาการปลอดภัยแล้ว ต่อหน้านางสมคิด พุฒิกลาง อายุ 55 ปี แม่ผู้บาดเจ็บ และจ่าสิบเอกช่อ พุฒิกลาง อายุ 53 ปี ผู้เป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ พร้อมพุดคุยสอบถามข้อมูล ท่ามกลางความสนใจของเพื่อนบ้าน

จ่าสิบเอกช่อ กล่าวว่า “สิบโทอภิวัฒน์ หรือ “หนึ่ง” พันธุ์ชื่น อายุ 27 ปีลูกเขย เป็นอดีตนายสิบทหารบก ถูกไล่ออกเนื่องทำร้ายผู้บังคับบัญชาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เมื่อคืนวานนี้ (10 พ.ย.) ก่อนเกิดเหตุ สิบโทอภิวัฒน์ ได้เข้ามาในบ้าน ตนเองได้ยินเสียงได้ลุกมาดูพบเป็นลูกเขย สอบถาม หนึ่งบอกมาตามหาบาร์ภรรยา ได้บอกว่า บาร์เข้ากะ ลูกเขย(หนึ่ง) มีท่าทีโกรธจัด

ขากลับออกไป หนึ่งขับรถเก๋งเลยออกจากหมู่บ้านโคกบ้านได้ประมาณ 50เมตรถึงท่อน้ำได้ยินเสียงยิงปืนขึ้นฟ้า 2-3นัด ตนเองยังคิดว่าหากพบกับบาร์ลูกสาวช่วงนั้นคงวุ่นวายมากกว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ใช้กำลังฉุดกระชากลูกสาวให้ขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ทะเบียน 4328 ปราจีนบุรี ใช้ปืนยิงและขับหนีออกไป โดยมีผู้พบเห็นขับขี่รถเก๋งออกมาทางถนนสายบ้านเกาะยายหนัก-บ้านโง้ง ผ่านทางหน้าโรงเรียนวัดอินไตรย์ธิดาราม คาดว่าน่าไปกบดานแถวบ้านเขาน้อย ตีนเขาใหญ่ที่เลยไปอีกไม่ไกล

Advertisement

และก่อนที่สิบโทอภิวัฒน์ จะออกไป ได้ข่มขู่ว่าหากไม่ได้พบหน้าบาร์จะเอาระเบิดมาขว้างใส่บ้านให้ตายจนเป็นที่หวาดกลัวกันทั้งบ้าน”จ่าสิบเอกช่อ กล่าว

ด้าน น.ส.พรพันธุ์ หรือ “บาร์” ภรรยา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองพร้อมสามีคือหนึ่ง และบุตรอีก 3 คน อยู่ที่บ้านของนายรังสรรค์ พันธุ์ชื่นพ่อของสามีที่หมู่บ้านหนองหัวลิง ต.โพธิ์งาม โดยตนเองทราบว่าเอาโทรศัพท์ไปจำนำ โดยตอนเย็นสามีนั่งกินเหล้ากับเพื่อนๆจนดึก ตอนเช้าไปทำงานได้ขอเงินกินข้าว สามี(หนึ่ง)บอกว่าไม่มี จึงถามว่า เพิ่งเอาโทรศัพท์ไปจำนำ ทำไมถึงบอกไม่เงิน สามีบอกว่าเอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว ตนจึงไปบอกแม่ของสามีให้ช่วยพูดหน่อย แม่ของสามีก็ไปบอกสามีได้โวยวาย

และเมื่อลูกชายขอเล่นโทรศัพท์ สามีก็จับโทรศัพท์ไปหักทิ้ง จึงเกิดทะเลาะกัน จากนั้นสามีไล่พร้อมพูดว่าให้เก็บข้าวของออกจากบ้านไป จึงพาลูก ๆมาอยู่ที่บ้านพ่อ-แม่ที่หมู่บ้านโคกบ้านคนละหมู่บ้าน

Advertisement

เมื่อเย็นวานนี้(10 พ.ย.) ไม่อยู่บ้านไปทำงานแล้วกลับมา ปกติจะมาทางลงทางฝั่งหมู่บ้านบ้านโง้ง แต่วันนี้มาลงทางหมู่บ้านเกาะยายหนัก เพื่อจะกลับบ้านได้ให้ลูกชายไปรับ ระหว่างเข้าร้านค้า สามีไปตามมาขอให้กลับบ้าน ตนเองไม่ยอมจนมีการฉุดกระชากดังกล่าว ไม่ทันเห็นว่าสามียิงปืนหรือไม่ ได้ยินเสียงปืนและมีรอยเฉี่ยวแขนดังกล่าว”

“ยังรู้สึกตกใจกลัวกับเหตุการณ์ เพราะสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาโมโหเคยทำร้ายตนเอง ที่ผ่านมาอยู่กินเป็นสามี-ภรรยากันมา 12 ปีมีลูกด้วยกัน 3 คน” น.ส.พรพันธุ์ หรือ “บาร์” ภรรยา กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.วีระพล กล่าวว่า “เบื้องต้นยังติดตามตัวสิบโทอภิวัฒน์ หรือ “หนึ่ง” พันธุ์ชื่นไม่ได้ และยังไม่ได้สอบสวนว่าปืนพกมีใบอนุญาตพกพาหรือไม่ หรือเป็นอาวุธจากราชการทหาร ถ้าไม่มีจะผิดข้อกล่าวหาพกพาอาวุธปืน และ กระสุน-ยิงปืนในที่สาธารณะ และ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ที่ผ่านมาตรวจสอบบาดแผลของภรรยาไม่พบรอยหัวกระสุนเข้า-ออก แต่อย่างใด โดยที่พื้นพบรอยถูกยิงคาดว่าเศษหินปลิวมาเฉี่ยว ส่วนในเรื่องการฉุดกระชาก-ทำร้าย ขึ้นอยู่กับการตกลงกันของสามี-ภรรยา และจะเชิญตัวน.ส.พรพันธุ์ หรือ “บาร์”ไปสอบสวนที่ สภ.ประจันตคาม ต่อไป”พ.ต.ท.วีระพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image