ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทางจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งไปแล้ว 19 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ พร้อมกับแจ้งให้ชุมชนต่างๆ ได้ทำการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติไปกักเก็บไว้ในสระน้ำชุมชน สำหรับใช้อุปโภคบริโภค และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึง แต่ปรากฏว่าหลายพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติให้สูบน้ำกักเก็บได้ จึงได้พากันเจาะน้ำบาดาลเพื่อสูบน้ำเก็บไว้แทน โดยเฉพาะที่บ้านหนองสาน หมู่ 13 ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชาวบ้านได้ลงขันกันจ้างช่างเจาะน้ำบาดาลที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน เพื่อหาแหล่งน้ำใต้ดินสูบขึ้นมากักเก็บไว้ในสระน้ำของชุมชน สำหรับไว้อุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง หลังจากที่สระน้ำของชุมชนมีปริมาณน้ำเหลือน้อยกว่าทุกปีเพราะเจอกับปัญหาฝนทิ้งช่วงนาน
นายคำมี แสงโลโพธิ์ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองสาน หมู่ 13 เปิดเผยว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี เนื่องจากพื้นที่ อ.พิมาย ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนาน ทำให้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติเหลือน้อย จนไม่สามารถสูบน้ำมาเก็บไว้ในสระน้ำของชุมชนได้ ขณะที่สระน้ำชุมชนซึ่งช่วงนี้ทุกปีจะมีปริมาณน้ำเต็มสระ แต่ปรากฏว่าปีนี้เหลือน้ำไม่ถึงครึ่งสระ ทำให้ชาวบ้านต้องพากันลงขันจ้างช่างเจาะน้ำบาดาลเพื่อทำการขุดหาแหล่งน้ำใต้ดินและสูบน้ำเข้ามาเก็บไว้ในสระสำหรับไว้ทำน้ำประปาใช้ในครัวเรือน ซึ่งในหมู่บ้านหนองสานนี้มีประชาชนอาศัยอยู่ทั้งหมด 237 หลังคาเรือน ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ตนเองก็ได้ประกาศเสียงตามสาย แจ้งเตือนให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดทุกวันด้วย
