ป่าไม้เลย ร้องอัยการจังหวัด บังคับเจ้าอาวาส ‘วัดร่มโพธิธรรม’ และพวกออกจากพื้นที่ หลังบุกรุกป่ากว่า 400 ไร่

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่สำนักงานป่าไม้จังหวัดเลย นายจีรศักดิ์ ปุญญพิทักษ์ ป่าไม้จังหวัดเลย เผยผลดำเนินคดีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติของวัดร่มโพธิธรรม บ้านหลัก 160 อ.หนองหิน จ.เลย ที่มีการบุกรุกป่าจำนวน 411 ไร่ 3 งาน 77 ตารางวา โดยร่วมกันยึดถือครองปรับพื้นที่จนโล่งเตียน ก่อสร้างถนน สระน้ำ ลานจอดรถ โรงครัว โรงปั่นไฟ เตาเผาขยะ ทำให้เกิดการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งศาลฎีกาได้ตัดสินให้ให้เจ้าอาวาส และพวก คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ หลังจากมีคำตัดสินของศาลเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 แต่วัดร่มโพธิธรรมไม่ยอมออกจากพื้นที่และยังใช้พื้นที่ตามปกติ ป่าไม้จังหวัดเลยจึงยื่นหนังสือถึงอัยการจังหวัด เร่งขอให้บังคดีเพื่อทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง

นายจีรศักดิ์กล่าวว่า พื้นที่ของวัดส่วนหนึ่งมีเอกสารสิทธิ และอีกส่วนอยู่ในที่ป่าสงวนแห่งชาติภูค้อและภูกระแต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดจำนวน 411 ไร่ 3 งาน 77 ตารางวา ซึ่งได้ดำเนินคดีกล่าวโทษร้องทุกข์และคดีได้สิ้นสุดแล้วถึงศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ได้ลงไว้ว่า พิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 คน พระไพศาล พุธวโร นายโชคอำนวย กนกสังแคลนพรหม นายบุญคุ้ม คงสถิต คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารทั้งหมดออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ

“หลังจากมีคำพิพากษาออกมา ทางสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 อุดรธานี ได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลย.14 ดำเนินการแจ้งคำพิพากษาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา จนถึงปัจจุบันนี้ จำเลยทั้ง 4 กับพวก ก็ยังไม่ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแต่อย่างใด ทางป่าไม้จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักงานอัยการจังหวัดขอบังคับคดี เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษา และพร้อมที่จะทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกในป่าสงวนแห่งชาติต่อไป” นายจีรศักดิ์กล่าว

Advertisement

ด้านสำนักงานอัยการจังหวัดเผยว่า เรื่องกำลังอยู่ในขั้นตอนระหว่างยื่นคำบังคับคดีต่อศาล เพื่อออกหมายให้เจ้าพนักงานบังคับคดีให้จำเลยออกจากป่าสงวนแห่งชาติ ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image