เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ“อาจารย์ชา” เจ้าของโครงการชุมชนธะธรรมชาติและโปรเจ็กต์สวนน้ำ พื้นที่เขารอยต่อ อ.หล่มเก่าและอ.หล่มสัก ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ได้ร้องเรียน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. ไปหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กอ.รมน.หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดก็ดี ต้องมีการใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ จึงคิดว่าเพื่อความเป็นธรรมและเพื่อให้เรื่องนี้จบเร็วขึ้นหรือจะได้รู้ว่าอันไหนผิดถูกให้เร็วขึ้น จึงได้เตรียมมอบให้ทนายยื่นฟ้องโดยส่วนตัวก่อน โดยจะเป็นสัปดาห์หน้าหรือวันไหนค่อยว่ากันอีกที ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับทนายความอยู่
อาจารย์ชากล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ดินก็คงปล่อยไปตามขบวนการแต่จะเตรียมฟ้องสิทธิ์ เพราะที่ดินของเราจะใช้คำว่าโดยมิชอบไม่ได้ เพราะเอกสารสิทธิ์ที่ออกมาโดยเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการเดินสำรวจหรือรังวัดเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งใช้เวลาเป็น 10 ปีแล้วอยู่ๆจะมายกเลิกเลยต้องมีเหตุผลว่ายกเลิกด้วยความผิดอะไร หากจะเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ดูว่าเป็นความบกพร่อง ฉะนั้นอาจารย์จึงต้องหันไปพึ่งศาลปกครองซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่อย่างไรก็ตาม โครงการธะธรรมชาติจะต้องเกิดขึ้น ที่ไหนไม่มีปัญหาก็จะไปดำเนินการ
อาจารย์ชากล่าวว่า ที่ดินบริเวณนี้เจ้าของที่ดินที่ถือโฉนดไม่ใช่ซื้อมาในมือแรก เป็นการซื้อต่อมาอีกทีนึง ในขณะที่อาจารย์ก็ซื้อต่อมาอีกทอดและบางแปลงก็ขายให้คนอื่นไปแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นลูกโซ่แล้วจึงต้องมีคนรับผิดชอบ นอกจากนี้ขณะนี้ทางคณะกรรมการตามมาตรา 61 ได้ส่งจดหมายให้ไปชี้แจงหรือคัดค้าน ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ จะทำหนังสือคัดค้านไป ตอนนี้เตรียมหลักฐานทุกอย่างไว้แล้ว ส่วนการบุกรุกป่าอยากชี้แจงเน้นย้ำว่า ที่ทำทุกวันนี้ทำในที่ดินมีโฉนดถูกต้องตามกฎหมายทุกย่าง ไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ป่าตามที่สื่อนำเสนอ อยากให้สังคมได้รับทราบส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็ให้ปล่อยตามขบวนการของทางราชการต่อไป
อาจารย์ชากล่าวว่า ย้อนไปเมื่อปี 2552 เมื่อทางดีเอสไอมาตรวจสอบได้เห็นพิรุธถึงความไม่ชอบธรรม ซึ่งอะไรที่เป็นชื่อนายปณิธานตรวจสอบหมดเป็นจุดๆ แต่ของคนอื่นแม้จะอยู่ตรงกลางก็ไม่ตรวจสอบ ตรงนี้จึงตั้งข้อสงสัยได้ว่าอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมตั้งแต่ช่วงนั้นแล้วจนเชื่อมโยงมาถึงปัจจุบัน ฉะนั้นหากจะมีการยกเลิกหรือเพิกถอนโฉนดโดยหาว่าติดความสูงความลาดชัน จะต้องยกเลิกในพื้นที่ทั้งหมดและทั้งประเทศมีมากมายขนาดไหน เอาแค่เพชรบูรณ์หากยกเลิกพร้อมๆ กับแปลงของอาจารย์ก็คงไม่ว่ากัน
“แต่จู่ๆ มาตรวจสอบและยกเลิกที่ดินแปลงของอาจารย์คนเดียวแบบนี้ไม่เป็นธรรม จึงขอร้องไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ดินก็ดีผู้เกี่ยวข้องก็ดี ขอให้ตรวจสอบทุกๆแปลง ส่วนสภาพโครงการฯตอนนี้การดำเนินงานก็หยุดชั่วขณะหนึ่งก่อน ก็อยกาเคลียร์ปัญหาให้คนที่มาร่วมลงทุน ให้เขาได้มั่นใจก่อน แต่ถามว่าจะหยุดไป 100% ไหมก็ยังไม่หยุด เพราะว่าอย่างน้อยก็มีที่ดินบางแปลงไม่ได้อยู่ในแปลงที่ถูกเพิกถอนจึงพยายามในจุดนั้นไปก่อน”
ข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน อาจารย์ชาพร้อมภรรยาและบุตรสาว รุดเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.หล่มสัก เพื่อไกล่เกลี่ยกรณีนายสนม บุญจันทึก นักข่าวหนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คส่วนตัวพาดพิง จนอาจารย์ชาอ้างว่าถูกหมิ่นประมาททำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.หล่มสัก ก่อนหน้านี้ โดยมีพ.ต.อ.นิคม พรหมพิราม ผกก.สภ.หล่มสัก ร่วมด้วย ซึ่งผลการเจรจาอาจารย์ชารับปากยินดีจะถอนแจ้งความให้แต่ให้รอทางทนายความก่อน
