จากเพจดัง ทนายนิด้า ได้ออกมาโพสต์แฉเรื่องราวที่หมอ ข่มขืนคนไข้ ขณะตรวจภายใน โดยตอนแรกหมออ้างใช้ของปลอมสอดใส่ แต่กลับใส่ถุงยางให้ของปลอมด้วย พร้อมเผยแพร่แชตที่ดาราสาว บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทักแชตเล่าเรื่องราวและข้อมูลเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยตอนนี้เหยื่อสาวเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัด จ.นครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ น.ส.แป้ว (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย ที่ออกมาเปิดเผยว่า เคยโดน นายแพทย์รายนี้ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของคลินิค ลวนลาม ขณะที่เข้าไปตรวจอาการเป็นฝี ที่บริเวณหว่างขา เมื่อปี พ.ศ.2558
น.ส.แป้ว เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางเข้าไปรักษา อาการเป็นฝี บริเวณใต้หว่างขาอ่อน ซึ่งใกล้กับอวัยวะเพศ ตอนรู้จักคลินิกนี้ เพราะเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงใน จ.นครสวรรค์ โดยตอนที่หมอทักทายตน ว่า ตนท้องใช่หรือไม่ ซึ่งตนก็ตอบกลับไปว่า ตนไม่ได้ท้องแต่ตนปวดฝี จะตรวจนั้น ได้บอกให้ตนไปเปลี่ยนจากกางเกง เป็นผ้าถุง เมื่อเข้าไปบริเวณห้องตรวจ หมอก็ได้ปิดไฟ และล็อคกลอนประตู จากนั้น ก็ให้ตนขึ้นไปบนเตียงขาหยั่ง โดย หมอเรียกตนว่า ที่รัก จากนั้นก็บอกกับตนว่า ท่าทางจะเป็นคนเสร็จช้า เวลามีอะไรกับแฟนจะต้องทำท่า จากนั้น หมอก็ได้ทำท่าให้ตนดู และบอกให้ตนหลับตา คลายความกังวล และหมอก็ได้เข้ามาไซ้บริเวณซอกคอ และเลียที่หู ตนจึงตกใจดิ้น จึงบอกให้ หมอรีบรักษาตน เพราะตนปวดฝีมาก หมอจึงรักษาตนตามปกติ
น.ส.แป้ว กล่าวอีกว่า ปีต่อมา ตนได้เป็นฝีอีก แต่ไปรักษาในโรงพยาบาลภายในกรุงเทพแต่ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่สามารถรักษาได้ เนื่องจากเป็นฝีที่ไม่มีหัว ตอนรู้สึกปวดมากไม่สามารถทำงานได้จึงได้กลับไปรักษากับหมอจะ ตอนปวดมากไม่สามารถทำงานได้จึงได้กลับไปรักษากับ หมออีกครั้ง โดยครั้งนี้ตนได้พาน้องสาวและแฟนหนุ่มของตนไปด้วย แต่เมื่อถึงคิวตรวจ หมอให้บุคคลอื่นรอด้านนอก และไม่ให้นำ โทรศัพท์มือถือเข้าไปภายในห้องตรวจ
ระหว่างที่ตรวจเป็นเหมือนเดิม เรียกตนว่า ที่รัก และครั้งนี้หนักกว่าครั้งเดิม คือ มีการจับหน้าอกไซ้บริเวณต้นคอ หู และ ได้นำนิ้วที่สวมถุงยางและใส่เข้าไปบริเวณอวัยวะเพศของตน ในตอนนั้นตนเข้าใจว่าเป็นการรักษา เนื่องจากบริเวณฝีมันเจ็บและเหมือนมีหัวออกมา สักพักตนเห็นว่า กางเกงบริเวณเป้าของ นพ.จักรพงษ์ เลอะไปด้วยน้ำหนองที่ออกมาจากฝี จากนั้น หมอก็บอกตนว่า ที่รัก หลับตา และผ่อนคลาย ไม่นาน หมอก็ได้ก้มไปเลียบริเวณอวัยวะเพศของตน และขึ้นมาไซ้บริเวณซอกคอต่อ ตนจึงได้พยายามดิ้นหนี และบอกให้รีบรักษา เมื่อรักษาเสร็จ หมอได้ยื่นเงินสดให้ตน 2,000 บาท ตนไม่รับ ได้วางไว้ที่บริเวณเก้าอี้ตอนคืนผ้าถุง จากนั้นก็เดินออกมา
“หนูไม่กล้าร้อง เพราะ เค้าเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนมีแต่คนรู้จักนับถือ บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อนหนูและตอนที่เค้าเรียกหนูไปตรวจ เค้าเรียกข้ามคิว หนูคิวที่ 3 เค้าเรียกหนูคนสุดท้าย ซึ่งเวลาก็มืดใกล้จะปิดคลินิคแล้ว หนูคิดว่าเค้าตั้งใจ“
น.ส.แป้ว กล่าวอีกว่า เมื่อกลับมา ตนได้ ปรึกษาครอบครัว จากนั้น ครอบครัวจึงพาตนไปแจ้งความ ที่ สภ. เมืองนครสวรรค์ แต่ทางตอนที่ตำรวจไม่เชื่อพร้อมกับบอกว่า ตนสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำให้หมอเสียชื่อเสียง แต่ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งได้ยืนยันว่าภรรยาของตอนที่ตำรวจท่านนั้นก็เคยโดน หมอลวนลามเช่นกัน จากนั้นจึงมีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เมื่อแต่ที่ตำรวจเรียก หมอมาเจรจากับตน ตนก็ได้ถามว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร โดยทาง หมอบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นแนวทางการรักษา จากนั้น ตนจึงได้เรียกค่าเสียหายไป 80,000 บาท แต่ทาง นพ.จักรพงษ์ บอกว่าไม่มีให้ ถ้าหากจะดำเนินคดี ให้ไปสู้ที่ชั้นศาล ซึ่งตนก็พร้อม แต่จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อตนกลับมา บอกว่าทาง หมอให้ค่าเสียหาย 40,000 บาทตนจึงต้องรับไว้ เมื่อถึงวันรับเงิน ตนเดินทางมารับเงินและรีบขึ้นรถออกจากโรงพักทันที
น.ส.แป้ว กล่าวอีกว่า ตนออกมาพูด เพราะว่า อยากจะให้ทุกคนได้ทราบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายคนที่โดน นพ.จักรพงษ์ ลวนลามและข่มขืน แต่กลับไม่สามารถดำเนินคดีได้ และยังกลับมาทำ พฤติกรรมดังกล่าวอีกจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
จากการสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงกับคลินิกทราบว่า ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านจะเลือกรักษาที่คลินิกดังกล่าว เนื่องจากเป็นราคาที่ย่อมเยาและ หมอรักษาดี ใครที่อยากท้องก็เข้ามารักษาที่คลินิกดังกล่าวจากนั้นกลับไปก็ท้องทุกราย โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 บาท เท่านั้น โดยเรื่องดังกล่าวชาวบ้านทราบบ้างแล้ว เพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน แต่สาเหตุที่ยังเลือกรักษากับหมอรายนี้ เพราะ รักษาเก่ง มีชื่อเสียง โดนจากการสังเกตของชาวบ้าน จะพบว่าหมอจะนัดผู้เสียหายให้มาพบกลางคืน ประมาณ 21.00 น. เสมอ
ที่มาจาก ข่าวสดออนไลน์
