เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และนางสราญภัทร อนุมัติราชกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคม และมนุษย์ พร้อมด้วยคณะเดินทางไปที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทั้งนี้เพื่อนำชาวเมียนมา ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ จำนวน 73 คน มอบให้กับทางการเมียนมา ที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด โดยมีพันตำรวจเอกแมน รัตนประทีป ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ให้การต้อนรับ และเดินทางต่อไปที่ห้องประชุมตองยิน จังหวัดเมียวดี โดยมีนายเทซ่ะ ทูน หล่ายทวย รัฐมนตรีแห่งรัฐกะเหรี่ยง และนายวินหน่าย ทูน อธิบดีกรมฟื้นฟูเยียวยา กระทรวงสวัสดิการสังคม และการไปตั้งถิ่นฐานใหม่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ของไทย และเมียนมา ให้การต้อนรับ โดยนิธีการมีการให้ผู้แทนของทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวในที่ประชุม และทางกระทรวงพัฒนาสังคม และค้ามนุษย์ มอบเงินช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์รายละกว่า 30,000 บาท และฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองมอบให้รายละ 2,000 บาท
พล.ต.ต.กล่าวว่า การส่งเหยื่อค้ามนุษย์กลับไปครั้งนี้เป็นความร่วมมือ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงพัฒนาสังคม และมนุษย์ ร่วมกัน ซึ่งแรงงานเหล่านี้เป็นชาวเมียนมาทั้งหมด กำลังถูกส่งไปยังประเทศมาเลเซีย และที่ผ่านมา มีการขนคนโดยใช้รถบัสต่างๆอย่างเป็นขบวนการ ตั้งแต่ภาคกลางลงไปทางใต้ จนถึงชายแดนอำเภอหาดใหญ่ สะเดา จังหวัดสงขลา จากนั้นมีการพักเหยื่อไว้ในป่าแล้ว เดินทางต่อไปยังอำเภอสุไหงโกลกต่อไป ซึ่งขบวนการทั้งหมด มีเส้นทางการเคลื่อนย้ายตั้งแต่กาคกลาง ต้นทาง ลงไปทางใต้ ทางเจ้าหน้าที่ได้จับไปหมดทั้งขบวนการแล้ว และตั้งแต่ต้นปี 2561 คณะทำงานที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานการบูรณาการปราบปรามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ได้สั่งการ และมอบหมายให้ดำเนินการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง จนระทั่งจับกุมขบวนการได้ 40 กว่าราย ยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมดประมาณกว่า 50 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือเหยื่อกลับมาได้ทั้งหมดกว่า 72 คน
นายวินหน่าย ทูน กล่าวว่า ขอขอบคุณภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้ง 2 ฝ่ายไทย – เมียนมา ที่ให้ความช่วยเหลือเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ และไทย กับ เมียนมา ได้ร่วมกันบันทึกในข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) เมื่อปีค.ศ. 2009 มีการประชุมทุก 6 เดือน สำหรับผู้เสียหายทั้งหมดนี้ทางเมียนมา จะมีการเยียวยา ให้ความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกันจนจบกระบวนการทางด้านกฏหมายด้วย ซึ่งไทย – เมียนมา ได้มีการพัฒนาการทำงานร่วมกันมาตลอด และมีผลงานที่ชัดเจนมากขึ้นในปีค.ศ. 2018 นี้ ทำให้สถานการณ์ การค้ามนุษย์ ลดลง นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ทางไทยได้ให้เงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ เป็นจำนวน 9 แสนบาท นอกจากนี้ไทย – เมียนมา ยังมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ร่วมกัน โดยมีความรวดเร็วในด้านคดีในประเทศไทย จึงขอขอบคุณรัฐบาลไทย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยทั้งหมด
