เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ประพันธ์ นิลเศษ” ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชาย พร้อมภาพพิธีบำเพ็ญกุศลศพ โดยระบุว่า
“ลูกอยู่ร.รกินนอนแห่งหนึ่ง และเป็นไข้อยู่ 3 วัน แต่ครูไม่พาไปโรงพยาบาลจนลูกผมตายทิ้งลูกผมให้นอนตายมา6ชั่วโมงจึงพาไปโรงพยาบาลทำไมไม่พาไปตอนลูกผมเป็นไข้วันแรก หมอบอกว่าน้องตายมา6-8ชั่วโมงแล้วช่วยไม่ได้แล้ว(เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้)”
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่าผู้ที่เสียชีวิตคือ ด.ช.วงศธร นิลเศษ 14 ปี เป็นบุตรชายนายประพันธ์ นิลเศษ อายุ 38 ปี กับนางพัชรินทร์ ถั่วเถื่อน อายุ 43 ปี โดยได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเขากุมแป ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถาม นางพัชรินทร์ ได้เล่าให้ฟังว่า ได้ส่งลูกชายซึ่งเป็นเด็กพิเศษไปอยู่โรงเรียนประจำสำหรับเด็กพิเศษแห่งหนึ่งที่อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเวลา 4 ปี ต่อมาบ่ายวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาโรงเรียนได้โทรศัพท์แจ้งว่าลูกชายป่วยหนัก จึงรีบไปหาแต่เมื่อถึงโรงเรียนได้รับแจ้งจากเด็กในโรงเรียนว่าลูกถูกนำส่งโรงพยาบาลทุ่งสงและหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว เมื่อเดินทางตามไปที่โรงพยาบาล ครูไม่ได้บอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วทำให้เข้าใจว่ากำลังรักษาตัวอยู่
“เมื่อเข้าไปเยี่ยมพบว่าลูกชายนอนเสียชีวิตแล้ว ซึ่งครูแจ้งว่ามาส่งลูกชายที่โรงพยาบาลเวลา 16.00 น.ยังมีสัญญาณชีพอยู่ แต่แพทย์แจ้งว่าไม่สามารถช่วยชีวิตได้แล้ว เนื่องจากลูกตัวแข็งแล้ว ตอนแรกเข้าใจว่าลูกคงเป็นไข้จนช็อคแต่ได้ฟังจากแพทย์จึงทราบลูกเสียชีวิตมาแล้ว 5-6 ชั่วโมง จึงส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ทราบสาเหตุมาจากภาวะขาดน้ำ และติดเชื้อที่ปอด “นางพัชรินทร์ กล่าว
นางพัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ทางโรงเรียนอ้างว่าได้แจ้งให้ตนทราบว่าลูกชายเริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาไม่สามารถติดต่อผู้เป็นแม่ได้เนื่องจากโทรศัพท์แม่เสีย แต่ตนมั่นใจว่าหากมีการโทรศัพท์มาหาตนจริงแม้จะติดต่อไม่ได้ แต่ต้องมีสัญญาณเตือนภายหลังจากที่โทรศัพท์ใช้ได้แล้ว แต่ไม่พบข้อความแจ้งเตือนแต่อย่างใด และมีแต่เพียงสายเรียกเข้าเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 พ.ย.จึงมีความข้องใจทำไมโรงเรียนไม่พาลูกไปหาหมอตั้งแต่แรก
