ศาลสั่งคุก 5 ปี ‘หนุ่มพิการร่างทรงฤาษีตาไฟ’ ข่มขืนสาว (มีคลิป)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พ่อแม่ของ น.ส.เอ อายุ 17 ปี ได้นำตัว น.ส.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษว่า น.ส.เอ ได้ถูกนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นคนพิการแขนขาลีบอ่อนแรงช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อ้างเป็นร่างทรงของฤาษีตาไฟ ได้ล่อลวง น.ส.เอว่า กำลังมีเคราะห์ และได้นำตัว น.ส.เอ ไปทำการสะเดาะเคราะห์ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.61 ซึ่งนายสุรสิทธิ์ ได้ให้ญาติพี่น้องอุ้มมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดี ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งญาติได้ยื่นขอประกันตัวนายสุรสิทธิ์ต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ และศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 200,000 บาท โดยจะต้องมารายงานต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อครบกำหนดฝากขัง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 28 พ.ย. 61 ที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัด ศรีสะเกษ นายนพดล จันทร์พวง ทนายความชื่อดังของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นทนายความของนายสุรสิทธิ์ ผู้ต้องหาคดีนี้ เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยศาลได้พิพากษาว่า คดีนี้ จำเลยมีความผิดตามที่ฟ้องจริง ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกจำเลยคือนายสุรสิทธิ์เป็นเวลา 5 ปี และศาลได้สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ทั้งนี้ในการไต่สวนมูลฟ้องชั้นศาลนั้น ปรากฏว่า นายสุรสิทธิ์จำเลยคดีนี้ได้ให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งได้จ่ายเงินสินไหมเพื่อเป็นการเยียวยาให้แก่ น.ส.เอ ซึ่งเป็นผู้เสียหายเป็นเงินรวมจำนวนทั้งสิ้น 150,000 บาทไปเรียบร้อยแล้ว

นายนพดล กล่าวต่อว่า ซึ่งทางผู้เสียหายพอใจแล้วที่ได้รับการเยียวยา ดังนั้น ศาลจึงได้เมตตาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับเงินจำนวน 30,000 บาท ส่วนโทษการจำคุกนั้น ศาลสั่งให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งนายสุรสิทธิ์ จะต้องมารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจังหวัดศรีสะเกษ รวมจำนวนทั้งสิ้น 8 ครั้ง ทั้งนี้ ในการต่อสู้คดีนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการเจรจายอมความกันได้ในบางข้อกล่าวหา และผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว ซึ่งหลังจากศาลพิพากษาคดีนี้แล้ว ตนจะไม่อุทธรณ์คดีนี้ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ตนและทางฝ่ายจำเลยไม่ต้องการที่จะต่อสู้คดีนี้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว และทำให้สามารถเจรจากันกับผู้เสียหายได้ในที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image