เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน นางธนภร ก้านขาว อายุ 34 ปี ชาว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีลูกชายวัย 4 ขวบ ได้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณี นายศราวุฒิ หรือเอี่ยว ก้านขาว อายุ 33 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนายเอี่ยว ซึ่งเป็นสามีถูกรถเก๋งชนตายขณะกำลังข้ามถนน เมื่อคืนวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 22.00 น. บริเวณเชิงสะพานคลองสระ ถนนสามโคก-เสนา ตําบลคลองควาย อําเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี โดยผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธการช่วยเหลือเยียวยา ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
นางธนภร ก้านขาว เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่าสามีถูกรถเก๋งชน จึงรีบไปดูที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจของสามี ซึ่งนอนอยู่กับพื้นถนนแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ โดยมีเพื่อนได้ขับรถจักรยานยนต์ตามผู้ก่อเหตุจนพบว่ารถเก๋งที่ชนไม่สามารถขับต่อไปได้ และทราบชื่อคนขับรถผู้ก่อเหตุคือนายถาวร มุขดวงดาว อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 10 ต.ไม้ตรา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบมาดูศพ และได้บอกกับญาติว่ายินดีรับผิดชอบ โดยได้ไปให้ปากคำกับ ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ รอง สารวัตรสอบสวน สภ.สามโคก ซึ่งจะเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิตหลังจบงานศพแล้ว
ทั้งนี้ ผู้ตายคือนายศราวุฒิ ก้านขาว ซึ่งเป็นสามีเป็นคนดีมีน้ำใจ พบเห็นใครที่ลำบากจะเข้าไปช่วยเหลือตลอด มีอัธยาศัยดีใครที่รู้จักจะรักเขาทุกคน โดยงานสวดอภิธรรมมีคนมาร่วมเยอะมาก เมื่อครั้งมีชีวิตเมื่อมีงานบุญใกล้บ้าน เขามักจะพาครอบครัวไปเปิดโรงทานทำบุญให้กับประชาชนที่มาทำบุญตามวัดต่างๆ โดยเฉพาะเปิดร้านให้ทานฟรีในวันพ่อของทุกปี ก็ไม่เข้าใจว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่มีจิตสำนึกในความรับผิดชอบชั่วดี เป็นผู้กระทำให้มีคนตายเกิดขึ้น 1 คน แต่ไร้สำนึก ขนาดงานศพเขาไม่คิดที่จะมาเองด้วยใจ ต้องให้กำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันโทรตาม เขาบอกว่ากลัวว่าทางญาติของผู้ตายจะรุมประชาทัณฑ์ ซึ่งทางญาติๆ ไม่มีใครคิดแบบนั้นเลย ซึ่งหากคิดจะรุมทำร้ายก็คงจะทำตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุแล้ว เพราะว่าผู้ก่อเหตุมีความตั้งใจที่จะหนีจริงๆ แต่มีเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์ตามไป ประกอบกับรถเก๋งไม่สามารถขับต่อไปได้จึงจำนนต่อหลักฐานในครั้งแรก ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่อยู่ในเหตุการณ์แน่นอน
หลังจากที่ตนเองเผาศพสามีไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พนักงานสอบสวนได้นัดไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเยียวยา โดยผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธให้การช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น ให้ไปฟ้องเอาที่ศาล เงินไม่มีจ่าย และไม่ยอมทำให้ลูกเมียตัวเองลำบาก ทั้งๆ ที่ลูกของผู้ก่อเหตุก็โตกันหมดแล้ว ซึ่งก็ต่างกับตนเองที่จะต้องเลี้ยงดูลูกชายวัยแค่ 4 ขวบ หลังจากที่เสาหลักของครอบครัวต้องจากไป
ซึ่งผู้ก่อเหตุได้พูดเปรยๆ บอกกับญาติตนว่า ลูกชายของเขาได้ขับรถชนคนตายครั้งหนึ่ง คุกก็ไม่ต้องติด เงินก็ไม่ต้องเสียสักบาท ทำไมครั้งนี้ต้องมาเสียเงินด้วย ศาลสมัยนี้เห็นใจคู่กรณีสามารถผ่อนจ่ายได้ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องผ่อนจ่ายตามที่ศาลสั่งได้ จึงต้องร้องต่อสื่อกลัวว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมกับคดีความที่เกิดขึ้น
ด้านผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.สามโคก กล่าวว่าคดีดังกล่าว ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งผู้ก่อเหตุคือ นายถาวร มุขดวงดาว อายุ 60 ปี ในส่วนของเหตุการณ์ขับรถชนคนตายได้ดำเนินคดีอาญากับคนขับรถ และได้ส่งสำนวนคดีไปศาลแล้ว ส่วนการเยียวยาและการเรียกร้องจากทางญาติผู้เสียหายเป็นคดีแพ่ง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เตรียมรวบรวมข้อมูลที่จะส่งเป็นสำนวนให้ศาลพิจารณาต่อไป
