มือมืด บุกป่วน ปาถุงเลือดสัตว์ ข้ามรั้วบ้านเสี่ยอสังหาริมทรัพย์เมืองหนองคาย 3 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน แถมทำท่าทางท้าทายใส่กล้องวงจรปิด ตำรวจเผยรู้ตัวแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ รอรวบรวมหลักฐานชัดเจน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายนิติกรณ์ จิตต์ประสงค์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 364/42 หมู่ 9 หมู่บ้านเคียงเมือง ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย ว่าถูกคนร้ายปาถุงเลือดใส่บ้านมา 3 ครั้ง จึงไปตรวจสอบ โดยนายนิติกรณ์ได้พาชมบริเวณหน้าบ้านที่เป็นจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด พบว่ากล้องถูกทำลาย หน้ากล้องแตก คอหักลง ส่วนบริเวณภายในรั้วบ้าน ช่วงลานจอดรถ และศาลพระพิฆเณศ มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้หน้ากระโปรงรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ที่จอดอยู่ในบ้านยังถูกเลือดปาใส่จนสีรถกร่อน
นายนิติกรณ์ จิตต์ประสงค์ เปิดเผยว่า ครอบครัวตนทำอสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านจัดสรรโครงการไม่ใหญ่มาก ในอำเภอเมืองหนองคายขาย ก่อนหน้านี้เคยมีมือดีกรีดป้ายโครงการขายบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นวัยรุ่นมือบอน ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร ส่วนเหตุการณ์ถูกคนร้ายปาถุงเลือดใส่บ้าน เกิดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 3 ต.ค.61 ช่วงกลางดึก คนร้ายได้ปาถุงเลือด 9 ถุง เข้ามาในรั้วบ้าน ถูกบริเวณหน้าบ้าน ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.61 คนร้ายปาถุงเลือดเข้ามาอีก 13 ถุง ตอนเช้าจึงได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เพราะคิดว่าถูกผู้ไม่หวังดีคุกคาม
ขณะนั้นยังติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่เสร็จ ในช่วงสายเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคายได้มาเก็บเลือดไปตรวจสอบ ทราบว่าเป็นเลือดสัตว์ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้สั่งการให้ตำรวจมาติดตั้งตู้แดงไว้ที่หน้าบ้าน ก็จะมีตำรวจมาดูความเรียบร้อยให้ตลอด
และล่าสุดครั้งที่ 3 วันที่ 28 พ.ย.61 คนร้ายเวลาประมาณ 03.53 น. คนร้ายได้ปาถุงเลือดเข้ามาอีก 1 ถุง ตนตื่นขึ้นมาเพื่อจะส่งลูกไปทัศนศึกษากับโรงเรียน ตอน 04.00 น. จึงเห็นเข้าพอดี ก็รีบเช็คกล้องวงจรปิด ก็พบว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้ค่อนข้างชัดเจน ว่าเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำตาล, กางเกงยีนส์ขายาว, สวมผ้าคลุมหน้า แล้วสวมหมวกกันน็อคทับ เดินเข้ามาหน้าบ้าน เมื่อผ่านกล้องวงจรปิดก็ทำท่าทางท้าทาย ชี้นิ้ว ทำท่าทางปาดคอ ใส่กล้อง แล้วก็โยนถุงเลือดเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาที่กล้องวงจรปิดซึ่งมีสายเคเบิลห้อยตกอยู่ คนร้ายใช้สายเคเบิลฟาดเข้าไปที่กล้องวงจรปิด 2 ตัว จนเสียหาย แล้วหลบหนีไป ตนรีบโทรแจ้งตำรวจ ซึ่ง พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้รุดมาดูที่เกิดเหตุทันที
ส่วนสาเหตุตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ไปได้ดี คนร้ายอาจจะใช้ไสยศาสตร์เพราะการปาเลือดครั้งแรก 9 ถุง อาจทำให้ธุรกิจตนไม่ก้าวหน้า ครั้งที่ 2 จำนวน 13 ถุง เป็นเลขไม่ดีตามความเชื่อฝรั่ง ส่วนครั้งที่ 3 ปาถุงเดียวแต่กะให้โดนศาลพระพิฆเณศที่ตนศรัทธา แต่ก็เคยมีข้อขัดแย้งเรื่องของการแบ่งทรัพย์สิน มรดก เมื่อ 10 ปี ก่อน ซึ่งได้ให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ตนรู้สึกว่าถูกคุมคาม ข่มขู่ อยากขอให้ตำรวจตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างหวาดผวามาก
ขณะที่ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว และสั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบหาพยานหลักฐานให้แน่นหนา ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ คาดว่าจะได้ตัวผู้กระทำผิดในเร็ว ๆ นี้
