เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ สภ.เมืองลำปาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 รวมถึงเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ได้ร่วมแถลงผลสกัดจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ ผลงานของพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.ลำปาง เป็นยาบ้า จำนวน 13 ล้านเม็ด และยาอี 3,600 เม็ด มูลค่ายาเสพติดหากหลุดรอดไปได้กว่า 2,600 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า พื้นที่แรกที่สามารถสกัดยาเสพติดได้ คือ จ.เชียงราย ในเช้าวันนี้สามารถสกัดได้ในพื้นที่ ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดพยายามยิงต่อสู้ เพื่อหวังหลบหนี จึงถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญไป 1 คน โดยพบของกลางยาบ้า 6 ล้านเม็ด ที่ลำเลียงมากับรถยนต์กระบะ
ส่วนที่ จ.ลำปาง ก็มีการตรวจพบยาบ้า 7 ล้านเม็ด และยาอี 3,600 เม็ด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 โดยซุกในกระทะท้ายรถยนต์ และนำไปจอดทิ้งไว้ในป่ารก เขตบ้านแม่วะเด่นชัย ต.แม่วะ อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นรถที่หลบหนีการไล่ติดตาม ก่อนนำไปจอดทิ้งไว้ในที่ลับตา ส่วนคนขับหลบหนีไป จากนั้นชาวบ้านก็มาพบเจอ
ด้าน พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า ในช่วงนี้ที่มีการสกัด และจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก และอย่างต่อเนื่อง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย มาจากความต้องการของกลุ่มขบวนการในประเทศไทย และความต้องการขายของกลุ่มขบวนการตามแนวชายแดน จึงสั่ง และส่งยาเสพติดให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า การสกัดจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ อ.เถิน จ.ลำปาง โดยพบยาบ้า 7 ล้านเม็ด และยาอี 3,600 เม็ด นับเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ว่า มีการลำเลียงยาบ้า มาพร้อมยาอี ซึ่งปกติจะพบการลำเลียงยาบ้า มาพร้อมยาไอซ์ จึงต้องหาข้อมูลเพื่อให้ทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์กระบะ ทะเบียน จ.กำแพงเพชร ที่มีการใส่หลังคาด้านหลัง และขนลำเลียงยาเสพติด และถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ อ.เถิน จ.ลำปาง กระจกทุกด้านของรถมีการนำสีสเปย์ฉีด สีดำ ฉีดพ่นกระจกรอบคัน โดยเป็นการฉีดพ่นด้านใน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า มาจากกลุ่มขบวนการที่ต้องการให้กระจกรถเกิดความมืดมากขึ้น เพื่อป้องกันการมองเห็นเข้าไปจากด้านนอก
