ช่วยเพื่อนบ้านเก็บข้าวขึ้นยุ้ง เช้ากลายเป็นศพถูกฆ่าบนเปลนอน ตำรวจคาดอาจทะเลาะในวงเหล้า เร่งตามตัวเพื่อนร่วมวงสอบปากคำ
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ร.ต.อ.ฉันทะวัฒน์ จันทร์เกียรติกร รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านทุ่งมน หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งได้รายงานให้ พ.ต.อ.มนต์ชัย เหลืองอุทัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งมน พ.ต.ท.เทิด ธรรมะ รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม สารวัตรสอบสวน รับทราบ และได้เดินทางตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินโรงพยาบาลปราสาท เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรสุรินทร์
ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 29 หมู่ 1 บ้านทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนางจำเริญ แน่นหนา เป็นบ้านชั้นเดียว ห่างจากชายคาหน้าบ้านประมาณ 6 เมตร มีเปลถักผูกระหว่างต้นมะพร้าวและต้นชมพู่ ในแปลนอนพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายลักษณะนอนหงายบนเปล มีเลือดออกตามร่างกายและศีรษะ ทราบชื่อต่อมาคือ นายครุด สร้อยสุวรรณ อายุ 53 ปี เป็นคนในหมู่บ้านดังกล่าว โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมามุงดูศพกันเป็นจำนวนมาก และญาติผู้เสียชีวิตนั่งเฝ้าศพ ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
จากการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบท่อนไม้ไผ่ ยาวประมาณ 1 เมตร ติดคราบเลือดวางซุกไว้ใกล้ป่ากล้วยริมถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน ห่างจากที่เกิดเหตุ ราว 45 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนในที่เกิดเหตุพบขวดเหล้าขาวจำนวน 2 ขวด วางอยู่ใต้แคร่ไม้ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามชาวบ้านทราบว่า เมื่อวานผู้ตายได้มาช่วยนางจำเริญ แน่นหนา เก็บข้าวเปลือกขึ้นยุ้ง พอเสร็จงานแล้ว ได้นั่งดื่มกินกับเพื่อนๆ ประมาณ 4-5 คน ที่ใต้ต้นไม้ข้างบ้านที่อยู่ติดกับบ้านของนางจำเริญ ที่ผู้ตายได้ไปช่วยยกข้าว ดื่มกินกันไปถึงประมาณ 2 ทุ่ม จากนั้นผู้ตายอาจจะมีอาการเมาไม่สามารถกลับบ้านเองได้ ทั้งที่บ้านผู้ตายอยู่ถัดไปคนละซอยประมาณ 100 เมตร จึงได้มานอนในเปลหน้าบ้านของนางจำเริญ พอรุ่งเช้ามาเจ้าของบ้านและชาวบ้านที่ผ่านไป มา พบว่านายครุด เป็นศพไปแล้ว โดยตามร่างกายมีแผลที่ศีรษะลักษณะคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง มีเลือดอาบ เสียชีวิตคาเปลนอน
จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐาน เป็นไม้ที่เปื้อนเลือดและขวดเหล้าขาวที่พบในที่เกิดเหตุ และติดตามกลุ่มที่ดื่มกินในวงเหล้าเมื่อคืนประมาณ 4-5 คน เพื่อมาทำการสอบสวน ว่าเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตของผู้ตายครั้งนี้หรือไม่ ส่วนศพของผู้ตาย สมาคมวีอาร์กู้ชีพ สุรินทร์ จุด อ.ปราสาท ได้นำส่งนิติเวชตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะได้มอบศพให้ญาติ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
