เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม นายอานนท์ โลดทนงค์ เลขานุการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐได้ส่งเสริมให้ชาวไร่ปลูกสับปะรด สายพันธุ์เอ็มดี 2 หรือสยามโกลด์ เพื่อรับประทานผลสดทดแทนการปลูกสับปะรดปัตตาเวียส่งโรงงานแปรรูปเพื่อการส่งออกปรากฏว่าหลายอำเภอใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผลผลิตในเกณฑ์ที่น่าพอใจทั้งรสชาติหวานหอม และขนาดที่เหมาะสม เพื่อขายส่งให้ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่กระจายสินค้าไปยังตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ ขณะที่ตลาดต่างประเทศในจีน เกาหลีใต้ และญี่ป่น มีความต้องการบริโภคสับปะรดผลสดสูงมาก แต่ที่ผ่านมาการส่งออกสับปะรดจากประเทศฟิลิปปินส์ มีปัญหาจากสภาพดินฟ้าอากาศทำให้ผลผลิตลดลง จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ผลิตในไทยโดยเฉพาะแหล่งผลิตที่มีคุณภาพใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สามารถทำตลาดเพื่อแข่งขันได้
“ขณะนี้สมาคมชาวไร่สับปะรดไทย ให้การสนับสนุนทั้งเทคโนโลยีการผลิตและการบำรุงรักษา เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพมาตรฐาน นอกจากนั้นได้นำผลผลิตที่มีคุณภาพในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำไปแจกฟรีให้กลุ่มเป้าหมายทั้งหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการโรงแรมขนาดใหญ่ให้ทดลองชิม เพื่อให้ในอนาคตต้องการจะสั่งซื้อสินค้าจากเกษตรกรผู้ผลิตโดยตรง หลังจากชาวไร่ให้ความสนใจปลูกสับปะรดสยามโกลด์มากขึ้น เนื่องจากราคาผลผลิตสับปะรดปัตตาเวียส่งโรงงานราคาจำหน่ายไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 3.50 บาท ไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่ กก.ละ 4.60 บาท และจากการประเมินพบว่าแนวโน้มตลาดต่างประเทศมีความต้องการสับปะรดกระป๋องจากไทยลดลง” นายอานนท์กล่าว
