เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่จ.ลำปาง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างเดินทางร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ลำปางว่า ตนเดินทางมาจาก จ.สุโขทัย เห็นประชาชนหลายจังหวัด ทั้งสุโขทัย ตาก และลำปาง เดินทางเข้าไปใช้บริการตู้ ATM ตามหน้าร้านสะดวกซื้อ และตามตู้ธนาคารกรุงไทยจนต่อแถวยาว จึงสอบถาม ทราบว่าประชาชนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงินที่รัฐบาลมอบเงินให้เป็นของขวัญปีใหม่คนละ 500 บาท เป็นปรากฏการณ์ที่เห็นแล้วเกิดความประทับใจในรัฐบาลที่มองเห็นความต้องการของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน
“อยากบอกว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำงานแก้ปัญหาความยุ่งยาก และความไม่สงบเรียบร้อยจากการที่มีผู้อื่นทำไว้ โดยช่วงแรกปี 2557 – 58 เริ่มจากการดูแลความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองที่มีเสื้อเหลือง และเสื้อแดง ตีกัน และช่วงปี 2558 – 2559 พล.อ.ประยุทธ์ ทำเรื่องเมืองเศรษฐกิจ เมืองใหญ่ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าใน กทม. และเออีซี ทำให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่จะมีตำแหน่งงานว่างเป็นล้านตำแหน่งเป็นการสร้างเศรษฐกิจ จากนั้นในปี 2560 – 2561 ดำเนินโครงการเพื่อพี่น้องประชาชนที่ยากจน และเกษตรกรทั้งหลาย รวมถึงผลักดันแนวนโนยายประชานิยม ช่วงกลางรัฐบาลยังได้ประสานงานหลายฝ่าย เพื่อผลักดันนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเรื่องเศรษฐกิจ ต่างจากช่วงแรกที่มีแต่เรื่องทหารเข้ามา ต้องบอกว่าช่วงก่อนพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามา เงินในคลังแทบจะไม่เหลือ เงินเดือนแทบไม่มีจ่าย เป็นเหตุทำให้ข้าราชการ นักลงทุน หรือผู้สนใจในประเทศ ขอร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จัดการความไม่สงบสุข จากการมีม็อบเกิดขึ้น และเกิดเรื่องราวมากมาย ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเข้ามายึดอำนาจเพื่อให้บ้านเมืองอยู่ด้วยความสงบสุข”
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า หากวันนั้นพล.อ.ประยุทธ์ไม่จัดการเข้ามาดูแลบ้านเมืองให้เกิดความเรียบร้อย เงินในคลังก็หมด นักท่องเที่ยวก็ไม่มาก นักลงทุนก็เก็บข้าวของออกไป เราจะพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเผด็จการได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเข้ามาช่วยแก้ปัญหาประเทศได้อย่างดียิ่ง เราควรมองว่าใครอยู่หลังเสื้อเหลือง และเสื้อแดง เป็นเหตุทำให้เกิดความวุ่นวาย คือ พรรคการเมือง พวกนี้ใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย มันสมควรแล้วหรือไม่ที่สนับสนุน แต่พรรคพลังประชารัฐ เป็นทางสายกลาง หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เล่นการเมืองต่อ ปัญหาจะเกิดขึ้นตามมาเหมือนเดิมที่มีการชุมนุมคัดค้านเกิดขึ้นอีก ดังนั้นวันนี้เราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เราไม่ได้ช่วยเหลือเผด็จการ แต่เรากำลังช่วยคนที่มาแก้สถานการณ์ที่เกิดความวุ่นวาย
“บางคนบอกว่าสงสาร และคิดถึงอดีตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทยในอดีต แต่ผมอยากจะบอกว่า เหตุแห่งปัญหาที่มีกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นละ เป็นเหตุแห่งปัญหาของความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผมจึงเรียนให้ประชาชนทั้งหลายเกิดความตระหนักว่า ความรักความคิดถึงที่มีอยู่ แต่ไม่ใช่เรื่องของบ้านเมืองที่จะแก้ไขให้บ้านเมืองกลับไปปกติสุข” นายสมศักดิ์ กล่าว
