เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาล 3 ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นห้องแถวจำหน่ายสินค้าขายปลีกและขายส่งตั้งอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ เนื่องจากร้านค้าที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวก่อสร้างด้วยไม้และสังกะสีค่อนข้างเก่า ประกอบกับมีสินค้าอยู่จำนวนมาก ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกไหม้ร้านค้าไปแล้วกว่า 10 ร้านขณะที่รถดับเพลิงจากสำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษได้เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไหม้อย่างเต็มที่ แต่เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากมีกระแสลมแรง ซึ่งไฟได้ลุกไหม้ไปยังร้านค้าใกล้เคียง บรรดาเจ้าของร้านค้าต้องพากับเก็บข้าวของทรัพย์สินของมีค่าหนีไฟไหม้กันอย่างโกลาหล
จากนั้น นายนพ พงศ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และนายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้มาอำนวยการดับเพลิงในที่เกิดเหตุ และเห็นว่า สถานการณ์เพลิงไฟได้ลุกไหม้รุนแรงมาก จึงแจ้งประสานไปยังเทศบาล ต.น้ำคำ อบต.หนองครก อบต.โพธิ์ อบต.หญ้าปล้อง เทศบาลตำบลยางชุมน้อย เทศบาลตำบลพยุห์ เทศบาลตำบลกันทรารมย์ เทศบาลตำบลกำแพง และเทศบาลตำบลขุขันธ์ เพื่อขอให้ส่งรถดับเพลิงมาช่วยในการดับเพลิงรวมจำนวน 17 คัน
ขณะที่ พ.ต.อ.วันปิติ พฤทธิกุล ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากันพื้นที่เกิดเหตุและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้รถดับเพลิงทำหน้าที่ดับเพลิงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งฉีดน้ำดับเพลิงกันอย่างเต็มที่ท่ามกลางความร้อนของเปลวไฟที่เผาไหม้ร้านค้าอย่างรุนแรง และใช้เวลาประมาณ 3 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังมีควันไฟและไฟยังลุกไหม้เป็นจุดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งฉีดน้ำดับไฟอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ามีร้านค้าโดนไฟไหม้จำนวนประมาณ 15 ร้าน ซึ่งหลังจากเพลิงสงบแล้ว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดต่อไป
นางเพิ่มทรัพย์ ศรีจันทร์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านเพิ่มทรัพย์ ซึ่งเป็นบ้านต้นเพลิง กล่าวด้วยอาการที่ยังตื่นตกใจกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ว่า ขณะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 61 ตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในร้านกับสามี ปรากฏว่าได้กลิ่นคล้ายกับกลิ่นไหม้ลอยลงมาจากชั้นบนของร้าน จึงเรียกให้สามีขึ้นไปตรวจดู แต่ปรากฏว่าได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นจากชั้นของบ้านอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งวัสดุจากไฟไหม้ได้หล่นลงมาจากชั้นบนของบ้านจำนวนมาก ตนกับสามีได้รีบวิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้นำเอาทรัพย์สินใดๆ ออกมาจากบ้านด้วย ซึ่งสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรจากชั้นบนของบ้านตนเอง
ด้านนายฉัฐมงคลกล่าวว่า ร้านค้าโดนไฟไหม้รวดเร็วมาก เนื่องจากมีสินค้าที่เป็นเชื้อเพลิงไฟไหม้ได้ง่าย อีกทั้งมีกระแสลมพัดแรง ทำให้ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดยังไม่สามารถสรุปได้
