นักดาราศาสตร์ชวนชม 2 ปรากฏการณ์ 14 -15 ธ.ค.นี้ “ฝนดาวตกเจมินิดส์”และ”ดาวหาง 46พี เวอร์ทาเนน”

2 นักดาราศาสตร์ ระบุคืนพรุ่งนี้(14 -15 ธ.ค.) ชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์”ปะทะดาวตกสูงสุดหลังเที่ยงคืนวันที่ 14 ถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2561 สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทั่วทุกภูมิภาคในที่มืดสนิท คนภาคตะวันออก-กรุงเทพฯดูได้ที่หอดูดาว หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทราฟรี!

วันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติถึงปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ กล่าวว่า “ในค่ำคืนวันที่ 14 ต่อเนื่องถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 ธ.ค.61 นี้ จะมีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 4-17 ธันวาคมของทุกๆปี

ในปี 2561 นี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดประมาณ 120 ดวงต่อชั่วโมง ศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ กลุ่มดาวคนคู่จะขึ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 20.05 น. ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่มีแสงจันทร์รบกวนในช่วงหัวค่ำ ดวงจันทร์จะตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 23.30 น. ดังนั้นจะสามารถสังเกตฝนดาวตกได้ชัดเจน และเริ่มปะทะดาวตกสูงสุด ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 14 ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 15 ธันวาคม 2561

“ผู้สนใจชมปรากฎการณ์ฝนดาวตกควรเลือกสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ ฝนดาวตกเจมินิดส์มีจุดเด่น คือ มีความเร็วของดาวตกไม่มากนัก ประกอบกับมีอัตราตกค่อนข้างมากจึงสังเกตได้ง่าย สามารถมองเห็นได้รอบทิศ ถือเป็นโอกาสดีในการสังเกตการณ์ฝนดาวตก

Advertisement

และในปีนี้ สดร.จัดกิจกรรมดาราศาสตร์ต่อเนื่องด้วยการชมฝนดาวตกเจมินิดส์ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่ค่ำวันที่ 14 ธันวาคม ถึงรุ่งเช้าวันที่ 15 ธันวาคม 2561 ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงขอเชิญชวนผู้สนใจและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรม

“ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากการที่โลกเคลื่อนที่เข้าตัดกับกระแสธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน ทิ้งไว้ในขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว สายธารของเศษหินและฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยจะถูกแรงดึงดูดของโลกดึงเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟที่มีสีสวยงาม (fireball) ฝนดาวตกแตกต่างจากดาวตกทั่วไป คือเป็นดาวตกที่มีทิศทางเหมือนมาจากจุดๆ หนึ่งบนท้องฟ้า เรียกว่า จุดเรเดียนท์ (Radiant) เมื่อจุดศูนย์กลางการกระจายตรงหรือใกล้เคียงกับกลุ่มดาวอะไร ก็จะเรียกชื่อฝนดาวตกตามกลุ่มดาวนั้นๆ หรือ ดาวที่อยู่ใกล้กลุ่มดาวนั้น เช่น ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต เป็นต้น”ดร.ศรัณย์ กล่าว

และกล่าวเพิ่มเติม “นอกจากนี้ยังจะได้ชมของแถม คือ ดาวหาง 46พี เวอร์ทาเนน (46/P Wirtanen) ที่จะโคจรเข้าใกล้โลกที่สุดในวันที่ 16 ธันวาคม 2561 นี้ โดยในช่วงหัวค่ำวันที่ 14 ธ.ค.นั้นจะสามารถชมได้ ที่ระยะห่างจากโลกประมาณ 11.5 ล้านกิโลเมตร

Advertisement

นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่า อาจจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ค่าความสว่างที่ตาคนเราสามารถสังเกตเห็นได้อยู่ที่แมกนิจูด 6 ยิ่งค่าน้อยยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพท้องฟ้าควรมืดสนิทปราศจากแสงและเมฆรบกวน สำหรับประเทศไทยสังเกตได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณหนึ่งทุ่มถึงตีสี่ บริเวณกลุ่มดาววัว จึงขอเชิญชวนผู้สนใจติดตามปรากฏการณ์ดังกล่าว”

สำหรับการสังเกตการณ์ดาวหาง 46พี เวอร์ทาเนน สามารถสังเกตได้ด้วยกล้องสองตาที่มีกำลังขยายตั้งแต่ 7-10 เท่าขึ้นไปหรือกล้องโทรทรรศน์ และหากต้องการถ่ายภาพ ควรเลือกช่วงเวลาที่ดาวหางอยู่ในตำแหน่งสูงจากขอบฟ้ามากที่สุด เพื่อหลีกหนีมวลอากาศที่บริเวณขอบฟ้า สิ่งสำคัญคือต้องถ่ายภาพในบริเวณที่มืดสนิท ไม่มีแสงไฟ แสงดวงจันทร์หรือเมฆหมอกรบกวน

“ดาวหาง 46พี เวอร์ทาเนน (46P/Wirtanen) เป็นดาวหางคาบสั้นขนาดเล็ก มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณแถบไคเปอร์ ถัดจากวงโคจรของดาวเนปจูน ค้นพบโดย คาร์ล เอ. เวอร์ทาเนน นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 กิโลเมตร จะโคจรมาใกล้โลกประมาณทุก 5 ปี แต่สำหรับปีนี้ นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีความสว่างมากที่สุด และมีโอกาสสังเกตเห็นด้วยตาเปล่า จึงเป็นดาวหางที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง”ดร.ศรัณย์ กล่าว

ขณะที่นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิตย์ ปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านดาราศาสตร์ไทยกล่าวว่า “ การเกิดฝนดาวตกเจมินิดส์มาจากดาวคนคู่และดาวเคราะห์น้อยเฟทรอนพีคสูงสุดวันที่ 14 ธ.ค.หลังเที่ยงคืนไปแล้วต่อเนื่องถึงวันที่ 15 ธ.ค.จำนวนดาวตกระหว่าง60-80ดวง/ชม. น่าติดตามเพราะมาตรงเวลาทุกปี

พร้อมกับสามารถชมดาวหางใกล้โลกอีก 1ดวงในวันดังกล่าวเริ่มจากช่วงหัวค่ำ โดยหอดูดาวฉะเชิงเทราจะตั้งกล้องให้เห็นดาวหางคือ ดาวหาง46พี เวอร์ทาเนนอย่างชัดเจนพร้อมกล้อง2ตาขนาดยักษ์ให้สัมผัสดาวหาง

โอกาสนี้เป็นโอกาสดี ดังกล่าวนี้ มีโรงเรียน ที่มาร่วมกิจกรรมชมฝนดาวตกเจมินิดส์ ( Geminids Meteor Shower ) หรือ ฝนดาวตกคนคู่ พร้อมของแถมดาวหาง 46พี เวอร์ทาเนน (46/P Wirtanen) จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ในวันที่ 14 ธ.ค.61 จะได้ชมที่หอดูดาวฉะเชิงเทรานี้ผ่านกล้อง 2 ตาและกล้องดูดาวขนาด 70 ซม. และ นอกจากนี้ ยังจะได้ชมดาวหางสเตฟานอีก 1 ดวงเป็นของแถมท้าย พร้อมดาวเคราะห์อื่นหลายอย่างช่วงหัวค่ำ เช่น ดาวอังคาร,ดาวเสาร์,ดาวเนปจูนและดวงจันทร์ขึ้น 8 ค่ำที่สวยงาม

มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม หัวค่ำดูท้องฟ้าจำลอง จากนั้นดูดาว เริ่มจากดูดวงจันทร์ก่อน ,ดาวเคราะห์,ดาวหางคือ 46Pไวทาเนนท์ และ ฝนดาวตกเจมินิดส์พร้อมกัน”นายวรวิทย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image