สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นราธิวาส ในช่วง 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้มแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หนักมากนัก ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำสายหลัก ที่รองรับปริมาณน้ำฝนและน้ำป่าที่ไหลหลากจากพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้ง มีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เริ่มล้นตลิ่ง ทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่ง ช่วงบริเวณชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีระดับน้ำท่วมขังขึ้นฉับพลันในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณสูงโดยภาพรวมเฉลี่ย 20 ถึง 40 ซม. ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่จำนวน 15 ครัวเรือน เริ่มที่ทยอยข้าวของสัมภาระที่จำเป็นหนีระดับน้ำท่วมขัง ไปอาศัยอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้านพัก
ส่วนสถานการณ์สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากฝนไม่มีทีท่าที่จะหยุดตก ด้านการใช้ชีวิตประจำวันก็คงยังดำเนินไปตามปกติ ทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย ก็ยังคงใช้เรือยนต์รับจ้างข้ามฟากเป็นพาหนะในการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน ทั้งการเยี่ยมญาติและขนส่งสินค้าที่ซื้อขายกันตามตลาดแนวชายแดน
ด้านนางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ก็ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข ไปตรวจสอบและสังเกตการณ์สภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมได้จัดเตรียมศูนย์อพยพชั่วคราวจำนวน 2 แห่งคือ 1. ที่อาคารเรียนของโรงเรียนเทศบาล 4 และ 2. ที่อาคารเรียนของโรงเรียนเทศบาล 1 ในการรองรับประชาชนที่ต้องอพยพไปอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราวแล้ว ส่วนทางเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ก็ได้มีการจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตการณ์สถานการณ์น้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมแบบฉับพลัน สามารถที่จะอพยพประชาชนได้ทันท่วงที
