เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 16 ธ.ค.61 ที่บริเวณสำนักงานศุลกากรจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม พร้อมกับ พล.ต.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บังคับการ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.ทวี สารกาล ผบ.ร้อย ตชด.236 พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองนครพนม พ.ต.ท.กัณฑ์ตพจน์ แจ่มปรางค์ทอง สว.ตม.ฯ นายกฤษฎา สาครวงศ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม นายรณยุทธ ขันทอง เจ้าหน้าที่ตรวจป่า นายอุทัย จันทร์เหลือง พนักงานพิทักษ์ป่า ร.อ.อาคม สมสนุก ผบ.ร้อยทหารพราน 2107 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางทัน เหวียน กี่ ทัน อายุ 43 ปี เป็นชาวเมืองฮาติง ประเทศเวียดนาม ลักลอบนำงาช้าง และเครื่องประดับที่ทำจากงาช้างแท้ น้ำหนักรวม 22.3 กก. จำนวน 930 ชิ้น โดยผู้ต้องหาบรรจุใส่ในกระเป๋าเดินทาง ในช่องที่เก็บสัมภาระรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ(นครพนม-ท่าแขก) จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปสอบสวน
เบื้องต้นนางทันฯให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเป็นนายหน้าส่งคนเวียดนามไปทำงานในกรุงเทพฯ โดยจะใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ข้ามไปมาเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุนางทันฯอ้างว่า ระหว่างที่นั่งรอเวลารถยนต์โดยสารระหว่างประเทศออกจากท่ารถเมืองท่าแขก สปป.ลาว มีชาวลาวเมืองท่าแขกว่าจ้างด้วยเงิน 2,000 บาท ให้ตนหิ้วกระเป๋าเดินทางไปวางไว้ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครพนม(บขส.) เพราะจะมีคนมารับช่วงต่อ เมื่อถามว่าภายในมีอะไรถึงหนักจัง ชาวลาวคนนั้นอ้างเป็นขวดเบียร์ จึงไม่เอะใจที่จะเปิดดู กระทั่งรถวิ่งข้ามแม่น้ำโขงมาถึงด่าน ตม. ที่มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานทำงานร่วมกัน ได้นำกระเป๋าที่ตนรับจ้างถือมาตรวจสอบ จึงรู้ว่าภายในบรรจุงาช้างอยู่เต็มกระเป๋า
พ.ต.อ.ณรัชต์พลฯ นายด่านศุลกากรนครพนม เปิดเผยว่างาช้างที่จับได้ สันนิษฐานน่าจะเป็นงาช้างแอฟริกา โดยมีการแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบนำงาช้างแปรรูปเข้ามาในราชอาณาจักรที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 กระทั่งพบรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ ทะเบียน บก0899 คำม่วน แล่นเข้ามาจอดเพื่อรอการตรวจสอบ พบนางทันฯมีลักษณะตรงกับที่สายรายงาน จึงขอตรวจค้นกระเป๋าเดินพบว่ามีงาช้างอยู่เต็ม จึงนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 มาตรา 5 นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 6 มีไว้ในครอบครองซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจจับการลักลอบนำเข้างาช้างได้ คาดเป็นขบวนการเดียวกันกับที่เคยจับกุมหนุ่มชาวลาวที่เขต อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพราะของกลางมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ที่มีการแปรรูปเป็นเครื่องรางของขลัง บางชิ้นยังไม่มีการแปรรูป แต่ตัดเป็นชิ้นๆ เหมือนจะนำไปแกะสลักตามคติความเชื่อ โดยนายทุนอาจจะเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกันทำงานตรวจเข้มทั้งเข้าและออก และการซื้อขายงาช้างในตลาดมืด มีราคากิโลกรัมละ 5-60,000 บาท การจับกุมกว่า 22 กก. ครั้งนี้ จึงมีมูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท
