ศุลกากรนครพนมรวบ ‘สาวเวียดนาม’ ลอบขนงาช้างจากลาวเข้าไทย เร่งขยายผลหานายทุนตลาดมืดไทย (คลิป)

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่สำนักงานศุลกากรจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรจังหวัดนครพนม พร้อมกับ พล.ต.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผู้บังคับการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.ทวี สารกาล ผบ.ร้อย ตชด.236 พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองนครพนม (ตม.) นายกฤษฎา สาครวงศ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง แถลงผลงานการตรวจยึดการลักลอบนำเข้างาช้าง โดยสามารถจับกุม นางทัน เหวียน กี่ ทัน อายุ 43 ปี เป็นชาวเมืองฮาติง ประเทศเวียดนาม พร้อมของกลางงาช้างที่ตัดเป็นชิ้นส่วน และมีการแปรรูปเป็นเครื่องประดับ ประกอบด้วย กำไลแขน สร้อยลูกปัด จำนวนทั้งหมด 930 ชิ้น รวมน้ำหนัก 22 กิโลกรัม คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

โดยการตรวจยึดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน นำเข้าจากแขวงคำม่วน สปป.ลาว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ธันวาคม จนกระทั่งมีการตรวจสอบพบกระเป๋าเดินทางต้องสงสัย ในช่องที่เก็บสัมภาระรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศ (นครพนม-ท่าแขก) หมายเลขทะเบียน บก 0899 คำม่วน ซึ่งมาจอดรอตรวจสอบเอกสารขาเข้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบเป็นชิ้นส่วนงาช้าง รวมถึงเครื่องประดับงาช้างหลายรายการ จึงควบคุมตัวเจ้าของ คือ นางทัน เหวียน กี่ ทัน มาสอบสวนหาที่มา และตรวจยึดเป็นหลักฐานของกลาง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 มาตรา 5 นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 6 มีไว้ในครอบครองซึ่งงาช้าง โดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

พ.ต.อ.ณรัชต์พล เปิดเผยว่า สำหรับงาช้างดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจยึดจับกุมในพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งก่อนนี้เคยตรวจยึดในพื้นที่ จ.หนองคาย ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการลักลอบ ลำเลียงมาทางพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อนำส่งนายทุนในไทยไปขายตลาดมืด ซึ่งจะมีการแปรรูป เป็นกำไล สร้อยลูกปัด เพื่อนำไปเป็นเครื่องประดับ รวมถึงเครื่องราง บางส่วนยังเป็นงาช้างที่ตัดเป็นชิ้นขนาดเล็ก เชื่อว่าจะนำไปแกะสลัก โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวเวียดนาม ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพค้าขาย ขณะเดินทางมากับรถโดยสาร ก่อนขึ้นรถ ได้มีคนมาว่าจ้าง ให้นำกระเป๋าสิ่งของติดไปกับรถโดยสาร ให้ค่าจ้าง 2,000 บาท และให้นำลงไว้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครพนม และจะมีคนมารับ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคาดว่า จะทำเป็นขบวนการ อาศัยลักลอบนำเข้ามาแบบกองทัพมด และจะมีการลักลอบนำเข้าตามช่องทางต่างๆ ส่วนราคาซื้อขายในตลาดมืดจะมีการซื้อขายกิโลกรัมละ ประมาณ 50,000 – 60,000 บาท เนื่องจากช่วงนี้มีการเข้มงวดจับกุม ยิ่งมีราคาแพง โดยจะได้มีการสอบสวนขยายผลหาที่มา สำหรับการลักลอบคาดว่าจะเข้ามาจากเวียดนาม ผ่านลางเข้าชายแดนไทย สันนิษฐานส่วนใหญ่จะเป็นงาช้างแอฟริกา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบนำเข้ามากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image