จิ๋วแต่แจ๋ว! อนุบาลรัชดา เฉือนชนะวงดนตรีลูกทุ่งสาย ข เตรียมชนแชมป์ประเทศพรุ่งนี้!

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) บึงกาฬ และหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ร่วมจัด “งานวันยางพารา บึงกาฬ 2562” ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.บึงกาฬ มีการจัดกิจกรรมบันเทิงสุดยิ่งใหญ่กับการประกวด “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2019” รอบชิงชนะเลิศสาย ข ชิงถ้วยรางวัลจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ, นายพินิจ จารุสมบัติ และนายนิพนธ์ คนขยัน ระหว่าง โรงเรียนปากคาดพิทยาคม, โรงเรียนอนุบาลรัชดา, และโรงเรียนศรีวิไลวิทยา

โดยมี จอมขวัญ กัลยา ศิลปินลูกทุ่ง, ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง โปรดิวเซอร์ลูกทุ่ง และครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ ครูสอนเต้นและนักออกแบบท่าเต้น เป็นคณะกรรมการ

Advertisement

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตัดสินปรากฎว่า โรงเรียนอนุบาลรัชดา เป็นผู้ชนะเลิศสาย ข ส่วน โรงเรียนศรีวิไลวิทยา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และโรงเรียนปากคาดพิทยาคม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2

Advertisement

สำหรับ โรงเรียนอนุบาลรัชดา จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2019 สาย ก ร่วมกับ โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี, โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา, โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์ จ.อ่างทอง, โรงเรียนทีปังกร วิทยาพัฒน์ (มัธยมวัดหัตถสารเกษตร) ในพระราชูปถัมภ์ จ.ปทุมธานี, โรงเรียนบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ชิงเงินรางวัลกว่า 500,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 18 ธันวาคมนี้

ด.ญ.นิลนภา ตรงดี อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตัวแทนจากโรงเรียนอนุบาลรัชดา กล่าวว่า ตนเองรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้เข้ารอบในวันนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตนเองและสมาชิกทั้งวงคาดหวังไว้ ส่วนการแข่งขันในวันพรุ่งนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศสาย ก. ตนรู้สึกกดดันมาก เพราะต้องแข่งกับทีมที่เป็นแชมป์ระดับประเทศด้วย แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้แน่นอน 100% โดยคาดหวังในการแข่งขันรอบต่อไปมาก เพราะสมาชิกในวงทุกคนทุ่มเทและซ้อมกันหนักมากจริงๆ

พร้อมทั้งยังฝากถึงทีมที่ต้องแข่งขันด้วยในรอบต่อไปว่า ถึงพวกเราจะเป็นเด็กแต่พวกเราจะแสดงกันอย่างเต็มที่ ไม่เล็กแน่นอน รวมถึงอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนในจังหวัดบึงกาฬหรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน ช่วยส่งแรงเชียร์แรงใจให้กับพวกเราด้วย และจะพยายามไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง

ด้านนายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องการประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ต้องขอบคุณนายพินิจ จารุสมบัติ และคาราบาวแดง สิ่งสำคัญคือเป็นโอกาสดีให้เยาวชนได้แสดงออก โดยเฉพาะได้เห็นแชมป์ระดับประเทศ เป็นการต่อยอดให้คนบึงกาฬมีโอกาสได้เห็นวงดนตรีระดับประเทศมาเจอกันในสนามบึงกาฬ ทำให้เด็กบึงกาฬได้เห็นได้มีต้นแบบจากแชมป์ระดับประเทศเป็นตัวอย่าง ซึ่งอย่างน้อยเป็นแรงบันดาลใจ เป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบให้มีความฝันในอนาคต

“ต้องขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนทำให้เกิดการแข่งขันนี้และขอบคุณผู้สนับสนุนที่ให้งบประมาณในการจัดประกวดดีๆ สำหรับเยาวชน ซึ่งวันนี้มีหลายกิจกรรมที่มีการประสานให้ทุกโรงเรียนนำเด็กนักเรียนมาศึกษาดูงานมีทั้งการวาดภาพ ระบายสี การดูนก ดูเมฆ จากอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะจะหาโอกาสแบบนี้เป็นเรื่องที่ยาก แต่วันนี้อาจารย์ได้ยกคณะมาถึงบึงกาฬซึ่งต้องขอบคุณอย่างมาก” นายนิพนธ์ กล่าว

ขณะที่นางสาวกนกพรรณ ทาบุญ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อายุ 17 ปี ตัวแทนจากวง T.S. Brand โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ผู้ชนะเลิศการประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 ในงานวันยางพาราครั้งที่ผ่านมา กล่าวว่า ตนเองและสมาชิกในวงได้เตรียมความพร้อมในการแข่งขันมาอย่างเต็มที่ ฝึกซ้อมกันทั้งวันทั้งคืน ซึ่งหากเป็นช่วงใกล้วันแข่งขันจริงประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีการซ้อมกันทั้งวันจนถึง 02.00 น. ของทุกวัน และในวันเก็บตัวก็จะจัดเวลาซ้อมร่วมกันทั้งวงอีกกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยการเลือกเพลงที่ใช้ในการประกวดจะเลือกตามเสียงของนักร้อง เพื่อหาเพลงที่เหมาะสมในการประกวดให้มากที่สุด ซึ่งการฝึกซ้อมที่ผ่านมา อาจมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง เนื่องจากมีจำนวนสมาชิกในวงเยอะ และทุกคนมีภารกิจที่แตกต่างกันไป ทำให้มีปัญหาที่หลากหลายแตกต่างกันไปด้วย อาทิ การเดินทางมาฝึกซ้อมที่โรงเรียน เพราะสมาชิกบางคนพักอาศัยอยู่นอกตัวเมืองหรือบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนเยอะ บางคนก็ติดปัญหาเรื่องการจัดเวลาเรียนและแบ่งเวลาซ้อม แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาและฝึกซ้อมร่วมกันได้อย่างดี โดยการแข่งขันในครั้งนี้ได้จัดเตรียมการแสดงละครประกอบการร้องเพลงเหมือนปีก่อน ที่รุ่นพี่เคยฝากผลงานไว้อย่างน่าชื่นชม ซึ่งปีนี้จะสามารถสืบทอดและสร้างผลงานต่อจากรุ่นพี่มาได้มากเท่าใด ต้องมาลุ้นกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าสมาชิกทุกคนตั้งใจทำการแสดงออกมากันอย่างเต็มที่แน่นอน

นางสาวกนกพรรณ กล่าวว่า ปีนี้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมการแข่งขันชิงถ้วยรางวัลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบกับการรวมวงในปีนี้มีสมาชิกเป็นน้องใหม่เกือบทั้งวง และมีรุ่นพี่ที่เคยผ่านการประกวดปีที่ผ่านมาเพียง 3 คนเท่านั้น ทำให้ทุกคนค่อนข้างตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็จะตั้งใจทำเต็มที่ เพื่อให้ได้ถ้วยรางวัลนี้มาอย่างแน่นอน สำหรับการจัดเวทีแข่งขันประกวดร้องเพลง เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสแสดงความสามารถนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมาก โดยเฉพาะการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ที่ปัจจุบันวงดนตรีลูกทุ่งเริ่มสูญหายไป เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องเงินทุน รวมถึงเด็กสมัยใหม่นิยมฟังเพลงแนวอื่นมากกว่าเพลงลูกทุ่ง เพราะเพลงในปัจจุบันมีค่อนข้างหลากหลายแนว ทำให้การจัดเวทีประกวดเพลงลูกทุ่งเช่นนี้ขึ้นมา จะทำให้มีการสืบสานเพลงลูกทุ่งจากเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักในแนวเพลงลูกทุ่งต่อไปในอนาคต จึงอยากให้มีการจัดเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่งแบบนี้ต่อไปทุกๆปี

“อยากฝากถึงทีมที่ต้องทำการแข่งขันกันว่า ไม่ต้องห่วงว่าวงเราจะเล่นไม่ดี หรือติดขัดอะไร เพราะพวกเราเตรียมตัวมาหนักมาก และเตรียมพร้อมที่จะมางัดข้อกับทุกโรงเรียนเพื่อให้ได้ถ้วยรางวัลชนะเลิศมาอย่างแน่นอน พร้อมทั้งอยากฝากขอกำลังใจจากทุกคนที่เชียร์วงเรา อยากให้ช่วยเป็นแรงใจให้กับพวกเราด้วย และพวกเราจะทำอย่างเต็มที่แน่นอน” นางสาวกนกพรรณ กล่าว

ด้านนายรพีพัฒน์ คงคำ อาจารย์ผู้ฝึกซ้อมและควบคุมวง T.S. Brand โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จังหวัด สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองมั่นใจ 100เปอร์เซ็นต์ ว่าวงของตนเองจะสามารถครองแชมป์ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของเด็กๆ ในวงทุกคน ที่มีความสามารถสูง และได้รับการสอนการฝึกซ้อมอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เพียงช่วงการแข่งขัน แล้วพอจบการแข่งขันก็หยุดเรียนหยุดซ้อม แต่เด็กในโรงเรียนจะได้รับการสอนและการซ้อมอยู่ตลอด อีกทั้งที่ผ่านมายังมีการฝึกซ้อมเด็กในวงอย่างหนัก จัดตารางซ้อมแบ่งเวลาทั้งซ้อมแยกและซ้อมรวมกันหลังเลิกเรียนทุกวัน โดยจะมีการตั้งกลุ่มย่อย เพื่อรวมกลุ่มฝึกซ้อม แบ่งเป็นการวอร์มร่างกาย ซ้อมหน้ากระจก ซ้อมรวมกัน ดูแลกันและกันในกลุ่ม และตั้งหัวหน้ากลุ่มขึ้นมาเพื่อดูแลสมาชิกในกลุ่มแทนอาจารย์ที่ต้องทำการเรียนการสอนในวันปกติ โดยเฉพาะช่วง 2 สัปดาห์ก่อนวันแข่งขันจริง จะมีการซ้อมกันอย่างหนักและจะมีการเก็บตัวสมาชิกในวงโดยให้มาค้างคืนในโรงเรียนเลย ไม่ต้องเดินทางไปกลับบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทางกลับบ้านในช่วงเวลากลางคืนของเด็ก และเพื่อไม่ให้กระทบกับเวลาเรียนของเด็กด้วย รวมถึงยังช่วยให้ผู้ปกครองสบายใจมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเด็กมานอนค้างที่โรงเรียนแล้ว ทุกคนจะดูแลกันและกันเป็นอย่างดี

นายรพีพัฒน์ กล่าวว่า การคัดเลือกนักร้องของวงเพื่อทำการแข่งขัน เนื่องจากโรงเรียนฯ มีโครงการส่งเสริมด้านนาฏศิลป์อยู่แล้ว จึงสามารถทำการคัดเลือกเด็กที่สมัครเข้าร่วมโครงการได้เลย เนื่องจากเด็กเหล่านั้นจะมีเสียงที่ดีมากอยู่แล้ว แต่จะมีการรวบรวมเด็กนักเรียนที่เสียงดีที่สุดมาแข่งขันกัน และคัดเลือกคนที่เสียงดีที่สุดมาเป็นนักร้องประจำวงเพื่อทำการแข่งขันในปีนี้ ส่วนการคัดเลือกเพลงจะเลือกจากร่องเสียงของนักร้องก่อน ว่ามีร่องเสียงที่เหมาะสมกับนักร้องคนใด แล้วจึงจะทำการเลือกเพลงที่ใช้ในการประกวด และให้นำเพลงที่เลือกแล้วกลับไปซ้อม แล้วกลับมาร้องทดสอบให้ฟังอีกครั้ง เพื่อหาเพลงที่เหมาะสมที่สุดต่อไป ทำให้มั่นใจว่าการกลับมาครั้งนี้สามารถคว้าแชมป์ได้อีกปีอย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image