เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ บก.ปทส.ให้เข้าร่วมตรวจค้นโกดังล้างแห่งหนึ่ง ด้านทิศตะวันออกบริเวณริมถนนสายด่านขุนทด – สีคิ้ว ระหว่าง กม.ที่ 35-36 บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านกุดม่วง ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จึงประสานพ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ฝ่ายปกครองอำเภอด่านขุนทด ทหารชุดรักษาความสงบอำเภอด่านขุนทด ชุดปฏิบัติการพิเศษ ป่าไม้ที่ 8จังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจค้นโกดังร้างหลังสวนแก้วกรตามหมายค้นศาลจังหวัดสีคิ้ว พบไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนหลายพันแผ่น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบและติดตามผู้ครอบครองและผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้บก.ปทส. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด ร่วมกับ นายธีรศักดิ์ คำทวี ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้นครราชสีมา พร้อมฝ่ายปกครอง ทหารชุดรักษาความสงบ เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 184 หมู่ 5 ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด โดยมีเจ้าของอาคารพาณิชย์นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น ชั้น 2 พบโต๊ะหมู่บูชาไม้สักขนาดใหญ่อยู่ระหว่างตกแต่งด้วยไม้ตะเคียนทอง เจ้าหน้าที่จึงตรวจห้องเก็บของที่ชั้น 1 พบเรือไม้ตะเคียนทองโบราณขนาดใหญ่ 1 ลำ ศาลพระภูมิทำจากไม้และไม้หวงห้ามแปรรูปอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าของอาคารพาณิชย์รับสารภาพซื้อจากชาวบ้านมาเก็บไว้นานแล้ว อีกทั้งเป็นเจ้าของไม้แปรรูปในโกดังร้างด้วย โดยเพิ่งว่าจ้างอดีตผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งใน ต.ด่านขุนทด ขนย้าย ไปเก็บที่โกดังร้างของอดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลตะเคียนที่ติดต่อขอเช่าไว้
ต่อมา พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อม พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นม. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอด่านขุนทด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด พ.ต.ท.อรุณศักดิ์ วรรณโกษิตย์ รอง ผกก.สส พ.ต.ท.สรัล สุรเดชานนท์ รอง ผกก.ป. นายธีรศักดิ์ คำทวี ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้นครราชสีมา นายสุนทร กัณหาจันทร์ หน.หน่วยพัฒนาและป้องกันป่าไม้ อ.ด่านขุนทด พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโกดังร้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบไม้และคัดแยกไม้ของกลาง โดยใช้เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 148 นาย แต่ทำการคัดแยกได้แค่บางส่วน นับได้แล้ว 4,560 แผ่น คิดเป็นปริมาตร 120 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท 
จากนั้นเจ้าหน้าที่รายงานว่า ผลการตรวจยึดไม้หวงห้ามและกระบวนการเส้นทางการขนย้ายไม้แปรรูปจากโกดังแห่งหนึ่งในพื้น ต.ด่านขุนทด ไปพักที่โกดังร้าง ต.ตะเคียน นั้น มีบุคคลแสดงตนว่าเป็นเจ้าของไม้ โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งใน ต.ด่านขุนทด แสดงตนเป็นผู้รับจ้างขนย้ายมาให้ และให้การว่าเตรียมสร้างบ้านทรงไทย ขนาดใหญ่ใช้เสา 60 ต้น เพื่อไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา จึงต้องสะสมไม้จำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ยังขาดไม้เสา แต่ ผบช.ภ.3 ยังไม่ปักใจเชื่อ
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า วันนี้เป็นการตรวจยึดไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม้ที่ยึด ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการขนย้ายว่าไม้เหล่านี้มาจากโกดังแห้งหนึ่งใน ต.ด่านขุนทด มีการสอบสวนถึงตัวบุคคล ขณะนี้ยังไม่ได้กล่าวหา แจ้งข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น ขอเวลาการตรวจสอบให้ชัดเจน ขอให้เจ้าหน้าจำแนกคัดแยกไม้ให้เสร็จสิ้นก่อน อย่างไรก็ตาม มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของไม้ โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ช่วยจัดหาไม้ให้ ไม้ทั้งหมดมีปริมาตรประมาณ 120 คิว ถือว่ามาก เป็นไม้หลายๆชนิด มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท โดยเจ้าของไม้แจงว่าจะสะสมไม้มา 10-20 ปีเพื่อนำไม้สร้างบ้าน แต่ต้องตรวจสอบ 
“ไม้บางส่วนค่อนข้างสด ไม่ใช่ไม้ที่เก็บมาสิบยี่สิบปีจากการสอบถามผู้ซื้อได้ซื้อไม้มาจากหลายๆ จุด อาจมีการลักลอบตัดเล็กๆน้อยๆผสม เรื่องกระบวนการซื้อขายไม้นั้นขอตรวจสอบว่าที่เขาพูดจริงหรือไม่ แต่ในทางสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ มัน คือไม้เหลี่ยม เป็นลักษณะไม้ที่พร้อมส่งออกปะปน จึงยังไม่ปักใจเชื่อเจ้าของไม้ว่าจะเอาไว้สร้างบ้านทรงไทย” พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าว
จากนั้นคณะของพล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส.เข้าตรวจสอบโรงสีชุมชนเก่าของบ้านโคกรักษ์ หมู่ 4 ต.ด่านขุนทด พบเสาไม้ประดู่ 18 ต้น ไม้ตะเคียน 2 ต้น มีขนาดความยาวประมาณ 4 เมตร 20 ต้น แอบอยู่ด้านข้างโรงสีข้าว 11 ต้นและด้านหลังโรงสี 9 ต้น ส่วนภายในโรงสีพบไม้หวงห้ามแปรรูปอีกจำนวนมาก จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ยึดนำไปตรวจสอบรวมกับไม้ที่โกดังร้าง ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ก่อนหนานี้มีการขนไม้จำนวนมากออกไปแล้ว ส่วนที่พบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
