แม่ฟอสชี้ชีวิตลำบากหลังลูกตาย พ่อกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช

ครอบครัวฟอสเหยื่อเสี่ยอ้วนเขาชีจรรย์แทบล่มสลาย พ่ออาการหนักยังทำใจไม่ได้กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ส่วนแม่หลังลาออกจากโรงงานยึดรับจ้างเลี้ยงหลานดูแลบ้านญาติหารายได้จุนเจือครอบครัว หลังขาดฟอสเสาหลักของครอบครัวระส่ำ ทั้งทุกข์ทั้งทรมาน

วันที่ 21 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส เหยื่อเสี่ยอ้วนที่ถูกยิงเสียชีวิตคู่พร้อมกับน.ส.วีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย ที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่า 4 เดือน แม้ว่าผู้ก่อเหตุอย่างเสี่ยอ้วนจะถูกจับกุมและอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายแล้ว แต่ผลกระทบจากความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ยังทำให้ครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานอย่างสาหัส

นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 44 ปี แม่น้องฟอส กล่าวว่า เมื่อวานหลังจากไปขึ้นศาลได้แวะไปยังจุดเกิดเหตุที่เขาชีจรรย์ เพื่อไปเรียกขวัญและดวงวิญญาณของลูกให้กลับไปอยู่ที่บ้านตามคำที่หลวงพ่อที่บ้านนาตาล อ.ท่าคันโท ได้มาชี้แนะ เพราะหลังจากงานฌาปนกิจศพแล้ว ญาติพี่น้องและคนในครอบครัวก็ยังฝันเห็นน้องฟอส ยังวนเวียนไม่ไปไหน ด้วยเหตุนี้จึงได้เข้าไปสอบถามขอคำชี้แนะจากหลวงพ่อ ซึ่งทุกคนในครอบครัวก็เห็นว่าน่าจะเป็นความจริง จึงได้ไปยังที่เกิดเหตุทำพิธีเรียกดวงวิญญาณเพื่อความสบายใจ ขณะเดียวกันช่วงเวลานี้ตนเองต้องมารับภาระมาเป็นเสาหลักของครอบครัวอีกครั้งหลังสูญเสียลูกชายไป

“พ่อของฟอส สภาพจิตใจย่ำแย่มาก กลับมาดื่มเหล้าอย่างหนัก ทั้งยังกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องกินยาคลายเครียด และยานอนหลับอยู่ตลอด ส่วนยายที่เป็นคนเลี้ยงดูน้องฟอสมา บางวันยังร้องเรียกหาน้องฟอสไม่ขาด ส่วนคนเป็นแม่ยังต้องเข้มแข็ง ต้องกลับมาเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัว รับจ้างเลี้ยงหลาน ดูแลบ้านให้ญาติก็พอมีเงินได้ใช้ ส่วนเรื่องคดีมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จะมีผู้ใหญ่มาดูแลคดีนี้ในชั้นศาลคนที่ทำผิดต้องได้รับโทษที่ทำความผิด” นางจอมศรีกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image