ทสจ.มหาชัยชี้มลพิษยังไม่วิกฤติ ฝุ่นละออองเกิดขึ้นบางวัน แต่อาจยาวถึงปีใหม่

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ดร.รวมทรัพย์ คะเนดะ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร (ทสจ.) เปิดเผยว่า จากสภาพฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ที่กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดได้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ ค่า PMต่ำกว่า 2.5 ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่ายเพราะจมูกไม่สามารถกรองไว้ได้นั้น จากการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นพบว่า ค่าความเป็นพิษทางอากาศของจังหวัดสมุทรสาคร เกิดจากปัจจัยหลักคือ 1.สภาพการจราจรที่หนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีการจราจรติดขัด เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะถนนพระราม 2 เป็นทางผ่านในการเดินทางทั้งเข้ากรุงเทพฯ และลงไปทางภาคใต้ ในแต่ละวันมีปริมาณรถที่ค่อนข้างมากทั้งรถขนาดเล็กและรถขนาดใหญ่ ยิ่งในช่วงวันหยุด หรือเวลาเช้า-เย็น มีการจราจรหนาแน่น ในช่วงที่รถเคลื่อนช้า จะเกิดสภาพอากาศที่เป็นพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ที่ปล่อยออกมามากขึ้น

2.การก่อสร้างบนถนนพระรามสอง 3.ฝุ่นควันจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยออกมาในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศกดต่ำ หรือ อากาศปิด ทำให้ฝุ่นควันพิษลอยต่ำจนเครื่องมือตรวจจับของกรมควบคุมมลพิษตรวจจับไว้ได้ และ 4. สภาพมวลอากาศต่ำ ในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเวลากลางคืนและเช้ามืด ทำให้ควันพิษไม่สามารถเคลื่อนที่ลอยขึ้นข้างบนได้ แต่ถ้ามีแสงแดด จะช่วยบรรเทาควันพิษให้เจือจางลง โดยสภาพฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนนี้ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ เด็กเล็กๆ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยหรือผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ
“หลังจาก ทสจ.ได้รับหนังสือจากกรมควบคุมมลพิษแจ้งเตือนปริมาณฝุ่นละอองนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และยังแจ้งเกี่ยวกับสภาพอากาศให้ทางเกษตรกรได้รับทราบด้วย เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้กับเกษตรกร ซึ่งสถานการณ์อาจมีเรื่อยๆไปตลอดสัปดาห์ อาจมีสลับเป็นช่วงๆไปจนถึงเดือนมกราคม เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะอากาศปิด
ดร.รวมทรัพย์ คะเนดะ ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับสภาพฝุ่นเกินมาตรฐานในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ยังไม่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะเกิดขึ้นเป็นบางช่วงของบางวันเท่านั้น คือ ส่วนใหญ่จะเกิดในตอนกลางคืนและเช้ามืด ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา ส่วนการป้องกันแก้ไขในระยะยาว ควรแก้ตั้งแต่ต้นเหตุ ทั้งเรื่องการก่อสร้าง ควรป้องกันการฟุ้งของฝุ่นละออง , เจ้าของรถทุกประเภทมีการตรวจและดูแลรักษาสภาพรถให้พร้อมใช้งาน มีสภาพการเผาไหม้ที่ดีอยู่เสมอ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ ต้องตรวจเข้มเอาจริงกับรถทุกประเภทที่ปล่อยควันพิษ, ตำรวจจราจรช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร ไม่ให้มีรถติด หรือ รถติดน้อยที่สุด โรงงานอุตสาหกรรมต้องมีจิตสำนึกร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ปล่อยควันพิษออกมาอย่างเด็ดขาด

“ด้านของประชาชน ถ้ารู้ว่าเราสุขภาพไม่แข็งแรงพอ ขอให้ป้องกัน โดยใช้แมสปิดจมูกไว้เวลาที่ต้องออกนอกบ้าน แมส(หน้ากากอนามัย)ต้องเป็นแบบชนิดที่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ สุดท้าย ทสจ.จะคอยติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของการตรวจวัดคุณภาพฝุ่นละออง จากกรมควบคุมมลพิษ หากเข้าสู่ขั้นวิกฤติต่อเนื่อง ต้องนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในการพิจารณาเพื่อหาแนวทางแก้ไข หรือป้องกันร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป” ดร.รวมทรัพย์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image