สั่งเร่งตั้งทีมไขปริศนา เด็กหายลึกลับ 7 วัน ที่สุพรรณบุรี ผบก.วอนคิดในแง่ดีเด็กปลอดภัย

 

จากกรณี เด็กชายซูลุยผิว เด็กชายชาวพม่า วัย 2 ขวบ 1 เดือน ได้สูญหายไปเป็นเวลา กว่า 6 วัน ในไร่อ้อย ม.9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จนถึงวันนี้ยังตามหาตัวไม่เจอ ซึ่งทางครอบครัวที่เป็นคนงานตัดอ้อย ผู้เป็นพ่อแม่ ตายาย ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ เพราะยังไม่สามารถทราบว่าขณะนี้เด็กเป็นอย่างไร ล่าสุดทางจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้เร่งนำกำลังทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร ปกครอง กู้ภัย มาช่วยกันปฏิบัติภารกิจออกตามหา ในครั้งนี้ ตลอด 24 ชม. ทั้งภาคอากาศ ภาคพื้นดิน และค้นหาในบ่อน้ำ ทุกจุด เบื้องต้นยังไม่พบเด็ก

นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมวางแผน ปฏิบัติการภารกิจ นี้ ด้วยการตั้งกองบัญชาการ สั่งการด้วยตัวเอง โดยแบ่งทีมทำงานอย่างเป็นระบบ พร้อมประสานงานทำงานบูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งทางภาคอากาศ โดยประสานเฮลิคอปเตอร์จากกองการบินตำรวจ บินสำรวจพื้นที่ไร่อ้อย อุปกรณ์โดรน จากสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี พารามอเตอร์จากภาคประชาชน ภาคพื้นดิน การปูพรมเดินเท้าค้นหา ขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ทหารจากมลฑลทหารบกที่ 17 ภาคน้ำ บ่อน้ำทุกจุด จนท.ชุดประดาน้ำ จากมูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี ส่วนการสนับสนุนเรื่องอาหาร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก ในหลวงรัชกาลที่ 10 ตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบอาหารให้แก่จนท.ผู้ปฏิบัติงาน และมีแม่บ้านมหาดไทย มีจิตอาสา ชาวบ้าน มาช่วยกัน ส่วน มูลนิธิกระจกเงา ได้ส่งจนท.และนำสุนัขมาร่วมค้นหา พร้อมสืบหาเบาะแสอื่นร่วมด้วยอีกทาง ตอนนี้กว่า 300 ชีวิต ยังร่วมกันทำงานค้นหา ตลอด 24 ชม. ล่าสุดได้ประสานขออุปกรณ์เรือท้องแบนขนาดใหญ่ พร้อมรถแบ็คโฮ เพื่อสนับสนุน ภารกิจในการค้นหาใต้น้ำ พร้อมนำชุดประดาน้ำ ลงไปดำตามบ่อน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงทุกจุด ระยะทางของบ่อห่างจากจุดเกิดเหตุ 1-2 กม. จนถึงเวลา 23.30 น.ของวันที่ 22 ธันวาคม ล่าสุดในทุกภารกิจการค้นหายังไม่พบตัวเด็ก ซึ่งจะดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องต่อไป จนกว่าจะพบตัวเด็ก

ส่วนประเด็นการสูญหายไปในครั้งนี้ เป็นปริศนาลึกลับ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้าน ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันหลายประเด็น ทั้งการพลัดหลงในไร่อ้อย เพราะผีบังตา เป็นอาถรรพ์ต้นแจง อาถรรพ์จอมปลวก อาจเกิดการลบหลู่ หรือไม่ ก็มีการทำพิธีขอขมา และพิธีไสยศาสตร์ พิธีความเชื่อ กันอย่างต่อเนื่อง หวังเป็นที่พึ่งทางใจอีกทาง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสง่า สระศรีสม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 เล่าว่า สำหรับเรื่อง มีชาวบ้านเคยหลงเข้าไปในดงอ้อย 5 วันแล้วทำพิธีเอาเหรียญครุฑไปฝังดินใต้ต้นแจง แล้วออกมาได้นั้นจริงหรือไม่ นายสง่าเล่าว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าจริงเท็จประการใด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ชาวบ้านเล่ามา และก็ร่ำลือกันไป ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนตนไม่ขอพูดอะไร

ด้าน พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้เปิดเผยว่า ด้านความคืบหน้าของกรณีการสูญหายของเด็กชายวัย 2 ขวบ 1 เดือน ที่ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังเร่งระดมกำลังออกติดตาม นั้น วันนี้ตนได้เรียกทุกฝ่ายมาประชุม สรุปความคืบหน้า ทั้งผกก.สภ.สระยายโสม ทีมชุดสืบสวน เพื่อหาแนวทางความคืบหน้าของเรื่องนี้ หลังประชุมแล้ว ได้สรุปข้อมูลตั้งประเด็นหลักๆ เพื่อดูหลักฐาน พยาน ความเป็นไปได้ อันไหนที่พุ่งประเด็นน้ำหนักไปมากที่สุด อันไหนที่เป็นประเด็นรอง แล้วตัดออกทีละประเด็น แต่ก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่งไป

1.ประเด็นการพลัดหลง ในไร่อ้อย ซึ่งเราได้ดำเนินการให้ตำรวจ และหน่วยงานทหาร ปกครอง ชาวบ้านปูพรมเดินเท้า แบ่งเป็นแถวหน้ากระดานในการออกค้นหา ตลอดทั้งภาคกลางวัน กลางคืน ทุกร่องไร่อ้อย ร่องละ 2 คน โดยไร่อ้อยทุกบริเวณตรงนี้รวมกว่า 2 พันไร่ ดังนั้น เราจึงกระจายกำลังไปทุกจุด ค้นหาอย่างถี่ถ้วน สุดกำลังความสามารถ ส่วนทางบ่อน้ำทุกจุด ก็มีการระดมนักประดาน้ำ กู้ภัยงมหาตลอดทั้งวันเช่นกัน เนื่องจากสุนัขที่ปฏิบัติการออกค้นหาได้มีการไปยืนอยู่จุดนั้น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1-2 กม. ซึ่ง ขณะนี้ยังไม่พบตัวเด็ก ซึ่งก็ยังดำเนินการต่อไป

Advertisement

2.ประเด็น เรื่องสัตว์มีพิษ ประเด็นนี้ชาวบ้านในพื้นที่ก็รายงานว่า บริเวณไร่อ้อยนั้นมีสัตว์มีพิษเยอะ คนงานไร่อ้อยก็เคยเจองูเหลือม ขนาดใหญ่ ซึ่งประเด็นนี้ ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง จนท.ตำรวจ ที่เดินเท้าปูพรมเข้าไป ก็ค้นหาในทุกจุดเช่นกัน

3.ประเด็นเรื่องการ ลักพาตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางชุดสืบสวน ได้เร่งทำงาน ทั้งวางแนวทางในการนำพ่อแม่เด็กมา สอบปากคำ พยานแวดล้อม ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเวลาดังกล่าว มีใครอยู่บริเวณนั้น หรือไม่ มีรถแปลกๆเข้าออกหมู่บ้านหรือไม่ มีบุคคลแปลกหน้า ผ่านเข้ามาหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ละเอียดอ่อน จึงได้มีการไปเก็บภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางของหมู่บ้าน และได้มีนักจิตวิทยามาพูดคุยกับเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งอยู่กับเด็กที่หายไปคนสุดท้าย ซึ่งน้องก็บอกแค่ว่ามีน้าผุ้ชายมาจูงมือไป ได้กล่าวแค่นี้ เท่านั้น ส่วนประเด็นส่วนตัวว่า พ่อแม่เด็กเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครหรือไม่ ปัญหาครอบครัว ซึ่งเบื้องต้นก็ยังไม่พบ เพราะจากการสอบปากคำพ่อแม่ก็พบว่าทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากัน ซึ่งประเด็นการลักพาตัวก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ซึ่งชุดสืบสวน ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาก็ยังทำงานหาเบาะแสต่อ

4.ประเด็น เรื่อง อุบัติเหตุ สำหรับประเด็นนี้ เราก็เรียกบุคคลที่ขับรถสัญจรไปมา ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถไถ รถสิบล้อ เนื่องจาก ในวันเกิดเหตุนั้น เด็กกับพี่สาว ได้เล่นกันบริเวณนั้น ซึ่งก็มีพื้นที่ติดอยู่กับถนน และไร่อ้อย จึงมีการสัญจรของรถในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจจึงได้เรียกมา สอบปากคำทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพียงแต่จนท.ต้อง เรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อหาแนวทางในการสืบสวน อีกทางหนึ่งเราได้ให้ จนท.เช็คข้อมูลไปตามรพ.ว่า ในวันเกิดเหตุที่เด็กหายตัวไป มีเด็กมารักษาตัวที่รพ.ไหนหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลในแนวทางการสืบสวนอีกทางหนึ่ง

ด้าน พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ยังกล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นรองอื่นๆ เราก็ยังไม่ตัดทิ้ง เพียงแต่แนวทางการทำงานตอนนี้ เรากำลังหาข้อมูลอย่างละเอียด และได้สั่งการให้จนท.ตำรวจทุกคนทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งการระดมการค้นหา และ การสืบสวนสอบสวน หาข้อเท็จจริง และตระหนักว่า ให้นึกถึงว่า “การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เด็กที่หายไป คือ ลูกหลาน คนในครอบครัวเดียวกับเรา อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน มองในแง่ดี ภาวนาขอให้เด็กปลอดภัย

ล่าสุดเมื่อเวลา 01.00 น. ได้รับรายงานว่า ในส่วนบ่อน้ำทุกจุด การค้นหาปูพรมเดินเท้า ทุกจุด ยังไม่พบตัวเด็ก และจะเริ่มภารกิจปฏิบัติการค้นหาใหม่ เข้าสู่วันที่ 7

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image